ไม่พบผลการค้นหา
ชี้สังคมไทยเต็มไปด้วยคนขี้ขลาดตาขาว เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพิกเฉยต่อความอยุติธรรม

ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัย วินิจจะกูล จากสถาบัน IDE-Jetro ประเทศญี่ปุ่นกล่าวถึงระบบโซตัสในสังคมไทยว่า ระบบโซตัสที่ใหญ่ที่สุดไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย แต่เป็นระบบของทหาร ซึ่งจริง ๆ แล้วยังมีระบบโซตัสที่ใหญ่กว่านั้นก็คือระบบราชการแต่อำนาจไม่แรงเท่า 


“ระบบโซตัสที่ใหญ่ที่สุด ไม่ใช่อยู่ในมหาวิทยาลัย ทหาร เอาที่จริงมีระบบใหญ่กว่านั้นแต่อำนาจไม่แรง ระบบราชการทั้งหมดเลย โซตัสในมหาวิทยาลัยมันกระจอก” ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าวในงานเสวนาบันทึกข้อมูลเพื่อทวงความยุติธรรมจัดโดยสโมสรนิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับโครงการบันทึก 6 ตุลา ในวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา


ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าวอีกว่า ระบบโซตัสมีไว้เพื่อผลิตคนชนิดหนึ่งซึ่งไม่ใช่เอกลักษณ์ไทยและบางประเทศเป็นคนผลิตระบบโซตัสนี้ขึ้นม�� โดยผลิตคนอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ คนขี้ขลาดซึ่งสังคมไทยเต็มไปด้วยคนที่ขี้ขลาด คือไม่ใช่เขาไม่รู้นะว่าเกิดเหตุการณ์อย่าง 6 ตุลาหรือมีการกลั่นแกล้งอย่างในกรณีของการใช้มาตรา 112 หรือแม้แต่เรื่องภาคใต้ 


“ ไม่ใช่เขาไม่รู้หลายอย่างที่ทำมันเกินไป แต่สังคมไทยเต็มไปด้วยคนที่ขี้ขลาดตาขาวและคนเหล่านั้นสมควรได้รับการดูถูกดูหมิ่น คนเหล่านั้นได้ยินแล้วว่าตำรวจ 6 คนถูกจับหลังจากไม่กี่วันหลังวันที่ 24 กันยายน 2519 แล้วยังเฉยอยู่อีก คนขี้ขลาดเต็มบ้านเต็มเมือง นี้เราไทยแลนด์ 4.0 ไทยแลนด์ของคนขี้ขลาดต้องเป็นนายกของประชาชนตาดำ ๆ จำนวนมหาศาล เห็นความอยุติธรรมแล้วไม่จัดการให้เรียบร้อย อย่างนี้ไม่เรียกว่าขี้ขลาดได้อย่างไร” ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าว


ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าวอีกว่า ระบบโซตัสยังผลิตคนโง่กับคนแกล้งโง่ ระบบโซตัสในประเทศไทยผลิตคนสองประเภทนี้แค่นั้น 


“เมื่อปีแล้วผมได้พูดว่าสังคมไทยเป็นสังคมอับจนปัญญา เต็มไปด้วยคนโง่และคนแกล้งโง่ แน่นอนผมไม่ได้ด่าทุกคน แต่คุณไม่เห็นเหรอ คนรอบ ๆ ข้างเรา หลายเรื่องเห็นอยู่ต่ำตา...ก็แค่เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ไม่พูดแย่ไปกว่านั้นก็คือเออ ออ ห่อ หมก ทำสิ่งที่มันไร้เดียงสา ทำสิ่งที่มันปัญญาอ่อน ส่วนหนึ่งพวกเขาไร้เดียงสาและปัญญาอ่อนจึงไม่รู้ว่าเรื่องบางเรื่องที่ไร้เหตุผลไร้เดียงสาและปัญญาอ่อนเป็นเรื่องที่น่าอับอาย”


“ผมอยากให้กลับไปคิดว่าจริงหรือเปล่าละที่สังคมไทยเต็มไปด้วยเรื่องไร้เดียงสาน่าอับอายแล้วอยู่ได้ยังไงถ้าไม่ใช่เพราะประชาชนยังเอื้ออำนวยให้ภาวะไร้เดียงสาน่าอับอายนี้อยู่เต็มไปหมด...เพราะสังคมนี้มันขี้ขลาดแล้วก็โง่หรือแกล้งโง่ จนความยุติธรรมมันไม่เกิดง่าย ๆ แต่ถ้าหากสังคมไทยมีวิบากกรรมเป็นอย่างนี้ เราก็ต้องเผชิญหน้ารับสภาพที่มันเป็นไม่ใช่ปฏิเสธว่ามันไม่เป็น ต้องเผชิญหน้ากับสภาวะที่เป็นอย่างนี้แล้วก็สู้กันไป แก้กันไป ไม่มีทางอื่น”ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัย

ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าวอีกว่า ถ้าหากความยุติธรรมไม่สามารถหาได้ในช่วงชีวิตนี้ ก็ต้องต่อสู้ในระยะยาว ด้วยความหวังว่าเมื่อสังคมเติบโต มีวุฒิภาวะ และจะมีความกล้าหาญมากกว่านี้ได้ 


“ความโชคร้ายคือเราเกิดเร็วไปหน่อย สักวันหนึ่งมันก็ต้องฉลาดกว่านี้ได้ สักวันหนึ่งมันต้องกล้าหาญมากกว่านี้ ทุกวันนี้มันโชคร้ายอย่างนี้เพราะเราเกิดเร็วไปหน่อย” ศาสตราจารย์กิตติคุณธงชัยกล่าว
 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
187Article
76559Video
0Blog