คนจีนที่มาเรียนและทำงานในฮ่องกงทำให้ที่อยู่อาศัยในฮ่องกงยิ่งขาดแคลนมากขึ้น ขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยขาดแคลนและมีราคาสูง
 
ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่แพงเกินไปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง เนื่องจากจะทำให้ประชาชนไม่เหลือเงินไปจับจ่ายหรือลงทุนในรูปแบบอื่นๆ นอกจากนี้ยังทำให้ชนชั้นกลางและผู้มีรายได้น้อย ไม่สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้จนรัฐบาลต้องอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่เอื้อมถึง ซึ่งนี่เป็นปัญหาใหญ่ที่ฮ่องกงกำลังเผชิญ

ฮ่องกงถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีราคาอสังหาริมทรัพย์แพงที่สุดในโลกเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยอัตราราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงสูงกว่ารายได้รวมต่อปีของครอบครัวในฮ่องกงถึง 19 เท่า ซึ่งนอกจากราคาที่ดิน, ค่าเช่าบ้านและคอนโดที่แพงมากที่สุดในโลกแล้ว ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนด้วย ทำให้คนฮ่องกงจำนวนมากต้องแชร์ห้องเช่าอยู่ด้วยกันหลายๆ คนภายในห้องเดียว และปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัยในฮ่องกงกำลังแย่ลงยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากมีหนุ่มสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่เป็นจำนวนมากเดินทางมาเรียนต่อที่ฮ่องกง และเมื่อเรียนจบแล้วหลายคนก็เลือกที่จะอยู่ทำงานต่อในฮ่องกง ทำให้ที่พักในฮ่องกงยิ่งขาดแคลนมากขึ้นไปอีก

ในปีนี้มีนักศึกษาจากจีนจำนวน 12,037 คนที่กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในฮ่องกง คิดเป็นจำนวนร้อยละ 12 ของนักศึกษาทั้งหมดในฮ่องกง ซึ่งนักศึกษาเหล่านี้หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรีแล้ว ถ้าทำงานต่อในฮ่องกงอีก 3 ปี ก็สามารถสมัครเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในฮ่องกงและสามารถซื้อบ้านในฮ่องกงได้ ซึ่งผลสำรวจพบว่านักศึกษาจีนร้อยละ 46 เลือกที่จะทำงานในฮ่องกงต่อหลังจากที่จบการศึกษาแล้ว

นิโคล หว่อง จากบริษัท CLSA ที่วิจัยตลาดด้านอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงบอกว่า ปีที่แล้วมีการก่อสร้างห้องพักเพิ่มขึ้นในฮ่องกงตามคอนโดต่างๆรวมทั้งหมด 25,500 ยูนิต แต่ชาวจีนที่เดินทางมาเรียนและทำงานในฮ่องกงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี ทำให้มีความต้องการที่พักในฮ่องกงเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 ยูนิตต่อปี และอาจจะเพิ่มขึ้นสูงถึงอีกร้อยละ 30 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยชาวจีนกลุ่มนี้ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุ 20-30 ปี มีกำลังทรัพย์ในการซื้อหรือเช่าที่พักในฮ่องกงสูงกว่าชาวฮ่องกง เนื่องจากมีรายได้สูงและเป็นลูกคนเดียวจึงได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากพ่อแม่อย่างเต็มที่ 

ปัญหาขาดแคลนที่พักในฮ่องกงก็ทำให้คอนโดที่สร้างใหม่หลายๆ แห่งลดขนาดของห้องพักให้เล็กลงเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้มีจำนวนห้องเพิ่มมากขึ้น โดยการเคหะสถานของฮ่องกงเปิดเผยว่าคอนโดที่กำลังก่อสร้างใหม่ในฮ่องกงขณะนี้ มีห้องขนาดไม่เกิน 18 ตารางเมตรมากถึงร้อยละ 30 ของจำนวนห้องทั้งหมด และถึงจะมีขนาดแค่ 18 ตารางเมตร แต่ราคาก็สูงถึง 3 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 12 ล้านบาท ส่วนห้องขนาด 28 ตารางเมตร ราคาจะตกอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านเหรียญฮ่องกง หรือราว 24 ล้านบาท

รัฐบาลฮ่องกงกำลังพยายามควบคุมไม่ให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงพุ่งสูงมากไปกว่านี้จนคนหนุ่มสาวฮ่องกงไม่สามารถหาที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งรัฐบาลฮ่องกงก็มีโครงการจัดสรรคอนโดที่ราคาไม่แพงจนเกินไปให้กับชาวฮ่องกงที่วางแผนจะซื้อคอนโดห้องแรก