เสือดาวหิมะได้รับการปรับสถานะจากสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ให้มาเป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ หลังจากที่พบว่าพวกมันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักอนุรักษ์ก็เตือนว่าเสือดาวหิมะก็ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงจากการถูกล่าและถูกรุกรานที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ
เสือดาวหิมะ เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ตามแถบภูเขาสูงที่หนาวเย็นและมีหิมะปกคลุม พบได้ในภูมิภาคตอนกลางของเอเชีย มีลำตัวยาวประมาณ 90-135 เซ็นติเมตร เมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 40 กิโลกรัม มีจุดเด่นอยู่ที่ขนของมันจะยาวและฟูมาก เพื่อป้องกันตัวเองจากความหนาวเย็น และมีหางที่ยาวเกือบเท่าลำตัว
เสือดาวหิมะได้ชื่อว่าเป็นสัตว์นักล่าที่สง่างามและพบได้ยากเนื่องจากอาศัยอยู่บนเทือกเขาห่างไกล รวมทั้งเทือกเขาหิมาลัยที่ยากต่อการเข้าถึง ทำให้พวกมันเป็นเป้าหมายของการถูกล่าเนื่องจากซากของเสือดาวหิมะในสภาพสมบูรณ์มีราคาในตลาดมืดสูงถึง 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 350,000 บาท นอกจากนี้เสือดาวหิมะอีกจำนวนมากก็ถูกชาวบ้านยิงตายเพื่อปกป้องฝูงแกะหรือแพะจากเสือดาวหิมะที่มักจับพวกมันกินเป็นอาหาร ขณะที่เสือดาวหิมะอีกส่วนหนึ่งก็ตายเพราะเหยียบกับดักที่ชาวบ้านวางไว้เพื่อจับกวางหรือสัตว์ชนิดอื่น ทำให้จำนวนของเสือดาวหิมะในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว จนสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN ประกาศให้เสือดาวหิมะเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตั้งแต่ปี 1972
ล่าสุด IUCN ประกาศปรับสถานะเสือดาวหิมะจากสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ให้เป็นเพียงสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ หลังจากที่พบว่าพวกมันมีจำนวนในธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเป็นสัตว์ที่อยู่ในกลุ่มใกล้สูญพันธุ์จะต้องเป็นสัตว์ที่เหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยกว่า 2,500 ตัว และลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่สัตว์ที่อยู่ในกลุ่มแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์หมายถึงสัตว์ที่เหลืออยู่ในธรรมชาติน้อยกว่า 10,000 ตัว และลดจำนวนลงอย่างน้อยร้อยละ 10 ในช่วงสามรุ่น
การปรับสถานะของเสือดาวหิมะครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญจากนานาชาติ 5 คน ได้ติดตามสำรวจจำนวนเสือดาวหิมะในธรรมชาติมานาน 3 ปี และพบว่าเสือดาวหิมะมีจำนวนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และพวกมันไม่ได้ลดจำนวนลงเร็วอย่างที่เคยถูกประเมิน อย่างไรก็ตามการปรับสถานะของเสือดาวหิมะครั้งนี้ไม่ได้แปลว่าเสือดาวหิมะอยู่ในสถานะที่ปลอดภัย พวกมันยังคงอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์และยังคงลดจำนวนลงเรื่อยๆ แต่ไม่ได้รวดเร็วอย่างที่คาด
กลุ่มอนุรักษ์บางกลุ่มก็ไม่เห็นด้วยกับการปรับสถานะครั้งนี้ เช่น กองทุนเพื่อเสือดาวหิมะที่จัดโครงการสาธารณะเพื่อปกป้องเสือดาวหิมะที่วางแผนจะคัดค้านการเปลี่ยนสถานะครั้งนี้ เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ เนื่องจากเสือดาวหิมะก็ยังอยู่ในภาวะเสี่ยงจากการถูกล่า และถูกรุกรานที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ คาดการณ์ว่าขณะนี้มีเสือดาวหิมะหลงเหลืออยู่ในธรรมชาติราว 4,080 ถึง 6,590 ตัว
ภาพ: AP