ไม่พบผลการค้นหา
กองทัพเมียนมาระบุว่ากองกำลังติดอาวุธโรฮิงญาเตรียมก่อเหตุรอบใหม่ในหลายเมืองใหญ่ ส่วนนางอองซานซูจี ที่ปรึกษารัฐบาลเมียนมา ตำหนิรองนายกฯ ตุรกีที่เผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับโรฮิงญา พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเมียนมาจะคุ้มครองประชาชนทุกคนในรัฐยะไข่

กองทัพเมียนมาระบุว่ากองกำลังติดอาวุธโรฮิงญาเตรียมก่อเหตุรอบใหม่ในหลายเมืองใหญ่ ส่วนนางอองซานซูจี ที่ปรึกษารัฐบาลเมียนมา ตำหนิรองนายกฯ ตุรกีที่เผยแพร่ข่าวปลอมเกี่ยวกับโรฮิงญา พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเมียนมาจะคุ้มครองประชาชนทุกคนในรัฐยะไข่

ศูนย์บัญชาการกองทัพบกเมียนมาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา เตือนให้ประชาชนทั่วประเทศเฝ้าระวังบุคคลหรือวัตถุต้องสงสัย หลังมีรายงานว่ากองกำลังกู้ชาติโรฮิงญาอารกัน (ARSA) มีแผนจะก่อเหตุรอบใหม่ในเร็วๆ นี้ หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธดังกล่าวโจมตีสถานีตำรวจและจุดตรวจราว 30 แห่งในเขตหม่องดอว์ของรัฐยะไข่ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 100 คน กองทัพเมียนมาจึงได้นำกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธ แต่ทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากได้รับผลกระทบ อีกทั้งกลุ่มชาวพุทธในพื้นที่ก็รวมตัวตอบโต้เผาทำลายบ้านเรือนชาวโรฮิงญา ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 400 คน ซึ่งเป็นการประเมินขององค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศ

เว็บไซต์อิรวดี สื่อของเมียนมา รายงานว่ากองทัพได้เตือนให้ประชาชนแจ้งเบาะแสหากมีผู้ซื้อปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทเป็นจำนวนมาก โดยระบุว่ากลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญามีแผนจะก่อเหตุระเบิดในเมืองใหญ่ ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งกรุงเนย์ปิดอว์ นครย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ และเมาะละแหม่ง พร้อมย้ำว่ากลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนในต่างประเทศ แต่กองทัพไม่ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่าได้ข้อมูลจากแหล่งใด ขณะที่คณะกรรมการฝ่ายสารสนเทศของรัฐบาลเมียนมา ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่าประชาชนจะต้องอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ ข้อมูลที่จะก่อให้เกิดความรุนแรงต่อผู้ที่แตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนา ตลอดจนคำนึงถึงเสถียรภาพของประเทศชาติเป็นสำคัญ



ส่วนสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เฟซบุ๊กเพจของสำนักงานที่ปรึกษาแห่งรัฐบาลเมียนมา ซึ่งรับหน้าที่โฆษกของนางอองซานซูจี หัวหน้าพรรครัฐบาลเอ็นแอลดี แถลงอ้างอิงคำกล่าวของนางซูจี ว่าการก่อการร้ายเป็นเรื่องใหม่ (สำหรับเมียนมา) แต่รัฐบาลจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ให้การก่อการร้ายแพร่กระจายไปทั่วรัฐยะไข่

นอกจากนี้ นางซูจียังได้โทรศัพท์สายตรงถึงนายเรเจ็ป ทายยิป แอร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี เพื่อพูดคุยกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีตุรกีเผยแพร่ภาพถ่ายผ่านทวิตเตอร์โดยระบุว่าเป็นวิกฤตที่ชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมากำลังเผชิญ แต่มีผู้ชี้แจงว่าภาพที่ถูกอ้างถึงไม่ใช่เหตุการณ์ในรัฐยะไข่ รองนายกฯ ตุรกีจึงได้ลบภาพดังกล่าวไป แต่นางซูจีระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปลายยอดของภูเขาน้ำแข็ง เพราะยังมีข้อมูลปลอมอีกเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับสถานการณ์ของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในชุมชนต่างๆ

อย่างไรก็ตาม วิเวียน ตัน โฆษกของสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR เปิดเผยว่าในช่วง 11 วันที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญาหลบหนีความรุนแรงจากรัฐยะไข่เข้าสู่ชายแดนบังกลาเทศแล้วกว่า 123,600 คน โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีชาวโรฮิงญาเดินทางมาถึงค่ายผู้ลี้ภัยเพิ่มกว่า 35,000 คน ทำให้เกิดความแออัดมากขึ้นภายในค่ายผู้ลี้ภัย เพราะก่อนหน้านี้ก็มีผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาอยู่ในบังกลาเทศแล้วกว่า 400,000 คน

ผู้ลี้ภัยจำนวนมากขาดแคลนอาหารและน้ำ และยังต้องนอนหลับในที่โล่งแจ้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog