ทางการจีนประเมินว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศจะเติบโตแซงหน้าสหรัฐฯ ได้ภายใน 3 ปี จากนโยบายสนับสนุนภาพยนตร์จีน และจำกัดจำนวนการฉายภาพยนตร์จากต่างประเทศ

สำนักงานกำกับดูแลสื่อของจีน (SAPPRFT) ประมาณการว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศจะเติบโตขึ้น จนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แทนที่สหรัฐฯ ภายในปี 2020 โดยปีนี้ Box Office จีนทำเงินไปแล้วรวม 55,000 ล้านหยวน (8,360 ล้านดอลลาร์) หรือเกือบ 280,000 ล้านบาท ขณะที่ จำนวนโรงภาพยนตร์ในจีนก็นำหน้าสหรัฐฯ ไปแล้ว โดยสถิติล่าสุด ถึงเดือนมีนาคมปีนี้ มีจำนวนโรงกว่า 444,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงแบบสามมิติราว 38,300 แห่งด้วย

ประมาณการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วง 'แบล็กเอาต์' ของซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลจีนแบนการเข้าฉายของภาพยนตร์ต่างชาติ เพื่อให้ภาพยนตร์ในประเทศสามารถทำเงินได้ดีขึ้น ซึ่งภาพยนตร์แอ็กชันฟอร์มยักษ์อย่าง Wolf Warriors 2 ได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว และกลายเป็นภาพยนตร์ทำเงินมากที่สุดเป็นประวัติกาลของจีน หลังจากเข้าฉายไปเพียง 12 วัน จนถึงวันนี้สามารถทำเงินไปแล้วถึง 5,400 ล้านหยวน (820 ล้านดอลลาร์) หรือราว 27,000 ล้านบาท นับตั้งแต่เข้าฉายเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมเป็นต้นมา

ขณะที่ ภาพยนตร์ต่างชาติล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการจำกัดการฉายภาพยนตร์ต่างชาติของจีน ที่ให้โควตากับภาพยนตร์จากนอกประเทศเพียงปีละ 34 เรื่อง เท่ากับเป็นการตัดโอกาสการทำรายได้ของสตูดิโอใหญ่ฝั่งฮอลลีวูดไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม มีการประเมินว่ารัฐบาลจีนอาจเตรียมขยายโควตาในปีนี้ หลังข้อตกลงฉบับเดิมที่ลงนามในปี 2012 หมดอายุลง

[เครดิตภาพจาก Wolf Warriors 2 / Movie.Mtime]