กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ ปปง.แนะไทยต้องปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม หลังกรณีศาลอาญายกฟ้องคดีทัวร์ศูนย์เหรียญ ขณะที่ ปปง.ยึดทรัพย์สินบริษัทไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท ก่อนหน้านี้
รองศาสตราจารย์ สังศิต พิริยะรังสรรค์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ระบุว่า กรณีนี้ ปปง.อายัดทรัพย์สินในเครือบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญไปแล้วกว่า 4,700 ล้านบาท และยึดรถบัสนำเที่ยวอีกกว่า 2,000 คัน สร้างผลกระทบทั้งในแง่ธุรกิจและรายได้จากการท่องเที่ยว ขณะที่ล่าสุดศาลยกฟ้อง เนื่องจากน้ำหนัก พยานหลักฐานไม่เพียง
หากคดีถึงที่สุดและศาลตัดสินว่าไม่มีความผิด รัฐอาจต้องมีการชดใช้ค่าเสียหาย และคืนทรัพย์สินที่อายัดไว้ กรณีนี้ จึงเป็นบทเรียน ที่ผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรมีการทบทวนพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ให้ ปปง. มีหน่วยงานตรวจสอบของตนเอง หรือให้ ดีเอสไอและอัยการ ตรวจสอบสำนวนก่อนฟ้องศาล เพื่อให้เกิดความผิดพลาดในลักษณะนี้ขึ้นอีก
พร้อมกันนี้ ยังแสดงความเป็นห่วงว่าตอนนี้มี ปปง. ยังมีคดีที่อยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องกว่า 1,000 คดี หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันย่อมจะส่งผลเสียต่อภาคธุรกิจของประเทศอย่างมาก