น.ส.ปรียานุช หรือ 'เปรี้ยว' ปฏิเสธไม่ได้ฆ่าหั่นศพ 'แอ๋ม' ขณะที่อัยการคัดค้านการประกันตัว 4 คน ยกเว้น น.ส.จิดารัตน์ หวั่นหลบหนีมีอัตราโทษสูง ขณะที่ศาลนัดอีกครั้ง วันที่ 19 ก.ย. 2560
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 23 ส.ค.2560 ภายหลังจากที่ ศาล จ.ขอนแก่น ได้ทำการเบิกตัว น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว,น.ส.กวิตา ราชดา หรือเอิร์น,น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้,น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือเบนซ์ และ นายวศิน นามพรม ผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วริศรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม จากห้องควบคุมตัวผู้ต้องหาชั้น 1 ศาล จ.ขอนแก่น มาสอบคำให้การและรับทราบข้อกล่าวหา โดยศาลใช้เวลาในการสอบคำการและรับทราบข้อกล่าวหานานกว่า 2 ชม.
นายนพดล สีดาทัน ทนายความ กล่าวว่า ในฐานะทนายฝ่ายโจทก์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยถูกต้องนั้น บอกว่าในการสอบคำให้การนั้นพบว่า พนักงานอัยการและศาลได้อ่านข้อหาให้กับผู้ต้องหาได้รับทราบ ประกอบด้วย ข้อกล่าวหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย,ร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่น,ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,ร่วมกันพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และรับของโจร กับ น.ส.ปรียานุช, น.ส.กวิตา, น.ส.อภิวันทน์ และ นายวศิน ขณะที่ น.ส.อภิวันทน์ มีการตั้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย และ น.ส.จิดารัตน์ ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพียงร่วมกันลักทรัพย์ของผู้อื่นเพียงข้อกล่าวหาเดียว
ศาลได้อ่านข้อหาทั้งหมดให้กับผู้ต้องหาทั้ง 5 ได้รับทราบ ซึ่ง น.ส.ปรียานุช และ น.ส.กวิตา ปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่า น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม และปฏิเสธข้อหาต่างๆ โดยรับสารภาพเพียงว่าทำร้ายร่างกาย และข้อหาร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้นฯ เท่านั้น
ขณะที่ น.ส.จิดารัตน์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา น.ส.อภิวันทน์ รับสารภาพว่าเสพยาเสพติด และ ข้อหาลอบฝัง ซ่อนเร้นฯเท่านั้น นอกนั้นปฏิเสธทุกข้อหา และ นายวศิน รับเพียงข้อหา ลอบฝัง ซ่อนเร้นฯ ส่วนข้อหาอื่นที่ศาลแจ้งข้อหานั้นให้การปฏิเสธเช่นกัน
คดีดังกล่าวนี้ กำหนดให้ น.ส.ปรียานุช เป็น จำเลยที่ 1, น.ส.กวิตา จำเลยที่ 2, น.ส.จิดารัตน์ จำเลยที่ 3 , นายวศิน จำเลยที่ 4 และ น.ส.อภิวันทน์ จำเลยที่ 5 โดยพนักงานอัยการ ได้แนบท้ายคำร้องว่า จำเลยที่ 1,จำเลยที่ 2,จำเลยที่ 4 และ จำเลยที่ 5 กระทำความผิดโดยอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและเป็นคดีที่สะเทือนขวัญ พนักงานอัยการจึงขอคัดค้านการประกันตัว จำเลยที่ 1,2,4 และ 5 เนื่องจากเกรงจะหลบหนี และขอให้ศาลได้โปรดลงโทษจำเลยที่ 1,2,4 และ 5 สถานหนักด้วย ซึ่งตนในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ ก็จะยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาเช่นกัน หากจำเลยยื่นคัดค้านการประกันตัวต่อศาล
นายนพดล กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ศาลจึงมีคำสั่งนัดตรวจพยาน และหลักฐาน ของฝ่ายโจทก์และจำเลย ในวันที่ 19 ก.ย. 2560 เวลา 09.00 น. โดยเป็นการเริ่มต้นกระบวนการพิจารณาคดีพร้อมในทุกฝ่าย ซึ่งวันนั้นจะมีการแถลงต่อศาลว่าฝ่ายโจทก์และจำเลยจะยื่นหลักฐานหรือแถลงต่อศาลต่อไป
รายงานโดย โชติพงษ์ วงศ์พนารักษ์