กรมส่งเสริมการเกษตร ย้ำการปั้นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ต้องทำคู่กับสร้างเจ้าหน้าที่ให้สมาร์ท พร้อมพัฒนาไปกับเทคโนโลยีและการบริหารจัดการสมัยใหม่ ส่วนราชการมีหน้าที่ปรับสิ่งแวดล้อมรองรับการพัฒนา หวังสร้างเกษตรกรอัจฉริยะ เพิ่มเป็น 1.2 ล้านคน ภายใน 5 ปี 

นางสาวภาณี  บุณยเกื้อกูล  ผู้อำนวยการกองพัฒนาเกษตรกร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า นับตั้งแต่เริ่มทำโครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ หรือ เกษตรกรปราดเปรื่อง เมื่อ 4 ปีก่อน กรมฯ ก็มีแผนงานที่ทำควบคู่กัน คือการสร้างทั้งสมาร์ทฟาร์มเมอร์และสมาร์ทออฟฟิศเซอร์ เพื่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายวิ่งทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาปะทะ เพราะสิ่งสำคัญของการสร้างเกษตรอัจฉริยะ อยู่ที่วิธีคิดในการบริหารจัดการ   

อีกด้านหนึ่ง ส่วนราชการยังมีหน้าที่ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมรองรับกับการทำเกษตรกรรมยุคใหม่ ให้เกษตรกรเข้าถึงการพัฒนาได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยในด้านการจัดการน้ำ การจัดการดิน การสนับสนุนธนาคารพันธุ์พืช การทำตลาดรวม ระบบมาตรฐาน และระเบียบทางการค้า 

เพื่อให้ภายใน 5 ปีนี้ ประเทศไทยมีสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ของเกษตรกรที่มีอยู่ 12.7 ล้านราย หรือคิดเป็นประมาณ 1,200,000 คน จากปัจจุบันมีสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ประมาณ 8,000 ราย โดยคาดหวังว่า การยกระดับเกษตรกรรอบนี้ จะทำให้เกษตกรมีรายได้พ้นเส้นความยากจน ซึ่งหมายถึงมีรายได้เกิน 180,000 บาทต่อคนต่อปี