นักวิจัยเผยว่าในปี 2050 จำนวนผู้พิการทางสายตาทั่วโลกจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 3 เท่า โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้สายตาเสื่อมสภาพ การสวมแว่นหรือคอนแทคเลนส์ และการได้รับการรักษาโรคตาที่ไม่ถูกต้อง
จากบทความในนิตยสารทางการแพทย์ของอังกฤษ แลนเซตโกลบอลเฮลท์ (Lancet Global Health) คาดการณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะมีผู้พิการทางสายตาเพิ่มจาก 36 ล้านคนเป็น 115 ล้านคนในปี 2050 หากยังไม่มีเงินทุนในการรักษาที่เพียงพอ โดยจำนวนประชากรและจำนวนผู้สูงอายุที่มีมากขึ้นซึ่งมักเป็นโรคต้อกระจกและสายตายาว รวมถึงการรักษาโรคตาที่ไม่ถูกวิธีมีส่วนในการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้พิการทางสายตา
ขณะที่การวิเคราะห์ข้อมูลใน 188 ประเทศแสดงให้เห็นว่า สาเหตุที่ทำให้มีประชากรมีความบกพร่องทางสายตามากขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการสวมแว่นหรือคอนเทคเลนส์ หรือการได้รับการรักษาโรคเกี่ยวกับตาที่ไม่ถูกต้อง โดยปัจจุบัน มีประชากรทั่วโลกมากกว่า 200 ล้านคนที่มีความบกพร่องทางสายตาตั้งแต่ระดับปานกลางจนถึงขั้นรุนแรง
ด้านศาสตราจารย์ รูเพิร์ต บอร์น จากมหาวิทยาลัยอังเกลียรัสกิน (Anglia Ruskin University) ของอังกฤษกล่าวว่า ถึงแม้ปัจจุบัน จะมีการพัฒนาด้านเทคนิคการแพทย์ เช่น การผ่าตัดต้อกระจก ช่วยแบ่งเบาปัญหาทางสายตาได้/ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประชากรและผู้สูงอายุ ยังคงทำให้ตัวเลขผู้มีปัญหาทางสายตาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่มีผู้บกพร่องทางสายตามากที่สุดคือ เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก รวมถึงหลายส่วนในภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ยากจนและขาดแคลนสวัสดิการด้านสาธารณสุข
ศาสตราจารย์ รูเพิร์ต กล่าวเสริมอีกว่า แม้จะเป็นความบกพร่องทางสายตาที่ไม่รุนแรงแต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่อชีวิตได้อย่างมาก เช่น การขับรถ การศึกษา และโอกาสทางเศรษฐกิจ โดยตามกฎหมาย ผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาในระดับปานกลาง จะไม่สามารถขับรถได้ตามกฎหมาย เนื่องจากไม่สามารถแยกแยะคนที่อยู่ในระยะไกล โดยผู้เชี่ยวชาญแนะว่า ขณะนี้ทั่วโลกต้องร่วมมือกันด้านความพยายามในการรักษาอาการดังกล่าว ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: