การประกาศแบนทหารข้ามเพศในกองทัพสหรัฐฯของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นก้าวถอยหลังครั้งใหญ่ของวงการ LGBT อเมริกัน หลังจากในยุคของประธานาธิบดีโอบามา มีการขยายสิทธิความหลากหลายทางเพศในกองทัพอย่างกว้างขวาง เราไปย้อนดูกันว่าที่ผ่านมา กองทัพสหรัฐฯให้สิทธิคนหลากหลายทางเพศอย่างไรบ้าง
11 มี.ค. 1778 ร้อยโทกอตต์โฮลด์ เฟเดอริก เอ็นสลิน เป็นคนแรกในกองทัพสหรัฐฯ ที่ถูกบันทึกอย่างเป็นทางการว่า ต้องพ้นจากหน้าที่ เพราะมีพฤติกรรมหลากหลายทางเพศ หลังถูกตัดสินว่ามีความผิดข้อหามีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก
1 มี.ค. 1917 กองทัพสหรัฐฯ แก้ไขกฎหมายระบุว่า ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักจะต้องได้รับโทษจากศาลทหาร
1921 กองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า คนที่มีบุคลิกคล้ายผู้หญิงและพฤติกรรม “เบี่ยงเบนทางเพศ” มีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานในกองทัพ
1941 การเกณฑ์ทหารจะไม่รับบุคคลที่มี “ความต้องการทางเพศกับคนเพศเดียวกัน”
1942 จิตแพทย์กองทัพเตือนว่า “โรคจิตผิดปกติ” ทำให้คนรักเพศเดียวกันไม่เหมาะสมที่จะไปรบ และกองทัพได้ออกกฎอย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า กองทัพสามารถปลดคนที่รักเพศเดียวกันออกจากตำแหน่งและตัดสวัสดิการทหารผ่านศึก
พ.ค. 1980 จ่าสิบตรีหญิงมิเรียม เบน-ชาลอมฟ้องศาลว่า การปลดออกเธอจากจากกองทัพเพราะเป็นคนรักเพศเดียวกันเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งเธอชนะในศาลชั้นต้น แต่แพ้คดีในชั้นอุทธรณ์
30 พ.ย. 1992 บิล คลินตันไม่สามารถผลักดันกฎหมายให้ LGBTQ ในกองทัพเปิดเผยตัวได้อย่างที่เคยประกาศไว้ จึงออกนโยบาย Don’t Ask, Don’t Tell ที่ห้ามไม่ให้กลุ่ม LGBTQ เปิดเผยตัวตน แต่ยังระบุว่า การรักเพศเดียวกันผิดกับมาตรฐานของกองทัพ และมีคนถูกปลดจากการเป็นทหารภายใต้นโยบายนี้มากกว่า 13,000 นาย
9 ก.ย. 2010 ศาลตัดสินให้นโยบาย Don’t Ask, Don’t Tell ขัดกับรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการละเมิดเสรีภาพในการแสดงออก และเอกสิทธิ์ที่จะไม่ให้ถ้อยคำเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง
20 ก.ย. 2010 รัฐบาลของบารัก โอบามายกเลิกนโยบาย Don’t Ask, Don’t Tell ตามที่เคยหาเสียงไว้
26 มิ.ย. 2013 ศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสินอนุญาตให้เจ้าหน้าที่รัฐที่แต่งงานเพศเดียวกันรับสวัสดิการรัฐได้เช่นเดียวกับคนอื่น
30 มิ.ย. 2016 รมว. กลาโหมประกาศว่า กองทัพจะยกเลิกการห้ามคนข้ามเพศเข้าทำงาน
30 มิ.ย. 2017 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯประกาศเลื่อนการรับคนข้ามเพศเข้าทำงานออกไปอีก 6 เดือน
26 ก.ค. 2017 โดนัลด์ ทรัมป์ทวีตประกาศห้ามคนข้ามเพศเข้าทำงานในกองทัพสหรัฐฯ โดยอ้างเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและความยุ่งยากอื่นๆ