รัฐบาลอังกฤษเตรียมประกาศนโยบายพลังงานสะอาดเพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยมาตรการหนึ่งคือการตั้งเป้ากำจัดรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้หมดไปจากประเทศภายในปี 23 ปีต่อจากนี้
รัฐบาลอังกฤษเตรียมตั้งงบประมาณกว่า 3 พันล้านปอนด์เพื่อนำไปใช้ในนโยบายแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ซึ่งจะรวมถึงการสั่งห้ามขายและห้ามการขับขี่ยานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซินและดีเซล ภายในปี 2040 หรือในอีก 23 ปีข้างหน้า และจะส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดในด้านต่างๆ รวมถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยคาดว่ารายละเอียดของนโยบายดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 กรกฎาคม
กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมต่างสนับสนุนความคืบหน้าของรัฐบาลอังกฤษ หลังจากที่ก่อนหน้านี้รัฐสภาของสหภาพยุโรปลงมติผ่านร่างกฎหมายลงโทษบริษัทรถยนต์ที่ไม่สามารถพัฒนาเครื่องยนต์ให้ควบคุมการปล่อยมลพิษได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลในหลายประเทศ ทั้งฝรั่งเศส เม็กซิโก สเปน และกรีซ ที่ออกคำสั่งห้ามรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเข้าไปในพื้นที่ใจกลางเมืองหรือพื้นที่ที่กำลังประสบปัญหามลพิษทางอากาศมาก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ซู เฮย์ แมน โฆษกกระทรวงสิ่งแวดล้อม อาหาร และกิจการชนบทของอังกฤษ ระบุว่ารัฐบาลจะต้องเสนอมาตรการอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศเพิ่มเติม เพราะปัจจุบันนี้ คาดว่ามีประชาชนกว่า 40 ล้านคนประสบปัญหาสุขภาพจากมลพิษทางอากาศที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด และไม่อาจรอได้จนถึง 23 ปีกว่าที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงจะหมดไป และจากข้อมูลของสำนักงานขนส่งของอังกฤษ พบว่าปัญหามลพิษทางอากาศเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนอังกฤษเสียชีวิตก่อนวัยอันควรปีละประมาณ 40,000 ราย
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่าข้อเสนอในการแก้ปัญหามลพิษอื่นๆ ได้แก่ การปรับเส้นทางการจราจรในเขตเมืองเพื่อลดปริมาณยานพาหนะ การตรวจสอบคุณภาพรถโดยสารสาธารณะอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาการปล่อยมลพิษทางอากาศ รวมถึงการสร้างแรงจูงใจและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: