กลุ่มประเทศรัฐอ่าวอาหรับและอียิปต์ขยายกำหนดเส้นตาย ให้กาตาร์ปฏิบัติตามของเรียกร้อง 13 ประการรวมถึงปิดสำนักข่าวอัลจาซีราออกไปอีก 48 ชั่วโมง ขณะที่สื่อคูเวตระบุ กาตาร์ส่งคำตอบแล้ว
ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ได้ยื่นคำขอไปยังรัฐบาลคูเวต ซึ่งเป็นคนกลางในการเจรจาระหว่าง 4 ประเทศกับกาตาร์ เพื่อขยายกำหนดเส้นตายให้กาตาร์ปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง 13 ประการออกไปอีก 48 ชั่วโมง รวมถึงการเรียกร้องให้ปิดสำนักข่าวอัลจาซีรา
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเคยูเอ็นเอ (KUNA) ของทางการคูเวตรายงานว่า ขณะนี้คูเวตได้รับคำตอบจากรัฐบาลกาตาร์แล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า คำตอบของรัฐบาลกาตาร์เป็นเช่นไร
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอียิปต์ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและคว่ำบาตรกาตาร์ โดยกล่าวหาว่ากาตาร์สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย ขณะที่กาตาร์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และอีก 2 สัปดาห์ต่อมา กลุ่มประเทศรัฐอ่าวอาหรับและอียิปต์ได้ยื่นข้อเรียกร้อง 13 ประการแก่รัฐบาลกาตาร์ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนี้ คือ การปิดสำนักข่าวอัลจาซีรา ยกเลิกการตั้งฐานทัพตุรกีในกาตาร์ และให้กาตาร์ตัดความสัมพันธ์กับอิหร่าน พร้อมกำหนดเส้นตาย 10 วัน ซึ่งสิ้นสุดลงไปแล้วเมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม)
ข้อเรียกร้องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดก็คือการปิดสำนักข่าวอัลจาซีรา เนื่องจากถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อ โดยสหประชาชาติเองก็แสดงความกังวลว่าข้อเรียกร้องให้ปิดอัลจาซีรา กระทบต่อเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชนทั่วโลก
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ได้ออกมายืนยันว่า กาตาร์จะไม่ปฏิบัติตามข้อเรียกร้องของกลุ่มประเทศรัฐอ่าวอาหรับและอียิปต์ และได้เรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจา เพื่อร่วมหารือถึงเงื่อนไขที่เหมาะสม นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์ยังระบุอีกว่า กาตาร์เชื่อว่าโลกไม่ได้ปกครองด้วยอำนาจสั่งการที่เด็ดขาด แต่ปกครองด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศใหญ่กลั่นแกล้งประเทศเล็กๆ และยืนยันว่า ข้อเรียกร้องของซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สามารถเจรจาได้
ชีคห์ โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล-ธานี รัฐมนตรีต่างประเทศกาตาร์
ด้านกระทรวงการต่างประเทศของอียิปต์ได้ออกแถลงการณ์ณระบุว่า ในวันที่ 5 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะมีการหารือกันเพื่อพูดคุยถึงมาตรการขั้นต่อไประหว่างรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน และอิยิปต์ ที่กรุงไคโรของอียิปต์
ด้านสำนักข่าวเดอะ การ์เดียนได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่กลุ่มประเทศรัฐอ่าวอาหรับและอียิปต์ไม่พอใจต่อการรายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา เพราะก่อนที่จะมีสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา สื่อในตะวันออกกลางล้วนถูกควบคุมและมุ่งนำเสนอข่าวของทางการ แต่เมื่ออัลจาซีราถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1996 สำนักข่าวอัลจาซีราท้าทายผู้มีอำนาจในประเทศรัฐอ่าวอาหรับเสมอ ด้วยการนำเสนอข่าวสารที่ก่อนหน้านี้ถูกสั่งห้ามมาโดยตลอด นับตั้งแต่ประเด็นอิสราเอล พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี อดีตประธานาธิบดีเผด็จการลิเบีย กลุ่มติดอาวุธตอลิบาน กลุ่มกบฏเชเชน นายอุซามะห์ บิน ลาดิน รวมไปถึงการตั้งคำถามถึงการดำรงอยู่ของพระเจ้า อีกทั้งยังเผยแพร่แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
นอกจากนี้ อัลจาซีรายังมีบทบาทสำคัญต่อการปฏิวัติวงการสื่อของโลกอาหรับ และเมื่อปี 2010 อัลจาซีราก็มีบทบาทสำคัญในการจุดประกายการปฏิวัติที่เกิดขึ้นในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง หรืออาหรับสปริง