พระคาร์ดินัลจอร์จ เพลล์ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอันดับ 3 ของนครรัฐวาติกันและเป็นพระคาร์ดินัลที่อาวุโสที่สุดในออสเตรเลีย ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง โดยมีผู้เสียหายมากกว่า 1 คน
โฆษกตำรวจรัฐวิคตอเรียของออสเตรเลียเปิดเผยว่า พระคาร์ดินัลจอร์จ เพลล์ ผู้ดูด้านการคลังของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญอันดับ 3 ของนครรัฐวาติกันและเป็นพระคาร์ดินัลที่อาวุโสที่สุดในออสเตรเลีย ได้ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้งในออสเตรเลีย โดยมีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่มากกว่า 1 คน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ตำรวจยังไม่เปิดเผยจำนวนและช่วงอายุของผู้เสียหายเหล่านี้แต่อย่างใด
ขณะที่พระคาร์ดินัลเพลล์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด ส่วนนครรัฐวาติกันได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า พระคาร์ดินัลเพลล์จะเดินทางกลับออสเตรเลียเพื่อสู้คดีโดยเร็วที่สุด พร้อมยกย่องพระคาร์ดินัลเพลล์ที่ตลอดมาได้อุทิศตนทำงานด้านการต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ รวมทั้งร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการพัฒนาระบบช่วยเหลือและป้องกันเยาวชนในออสเตรเลีย
พระคาร์ดินัลจอร์จ เพลล์ (ซ้าย) และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 (ขวา)
โดยพระคาร์ดินัลเพลล์มีกำหนดขึ้นศาลในนครเมลเบิร์นเพื่อรับฟังข้อกล่าวหาในวันที่ 18 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าในวันดังกล่าวจะมีการเปิดเผยรายละเอียดของคดีทั้งหมด ขณะที่ตำรวจออสเตรเลียออกมายืนยันว่า พระคาร์ดินัลเพลล์จะได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นเดียวกับผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศรายอื่นๆ ทุกประการ
ก่อนหน้านี้ พระคาร์ดินัลเพลล์เคยถูกกล่าวหาว่าปกปิดการล่วงละเมิดทางเพศของนักบวชหลายคน ระหว่างดำรงตำแหน่งเป็นอาร์ชบิชอปแห่งนครเมลเบิร์นในช่วงปี 1996-2001 อย่างไรก็ตาม ในครั้งนั้นพระคาร์ดินัลเพลล์ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่า เขารับรู้ว่าอาร์ชบิชอปแฟรงค์ ลิทเทิล ที่ดำรงตำแหน่งอาร์ชบิชอปแห่งนครเมลเบิร์นก่อนหน้าเขาและเสียชีวิตไปแล้ว เคยทำลายเอกสารเพื่อปกปิดความผิดของนักบวช
อย่างไรก็ตาม ในปี 2013 พระคาร์ดินัลเพลล์กลับได้รับการแต่งตั้งให้เป็น 1 ใน 8 คณะคาร์ดินัล ที่ทำงานด้านการปฏิรูปคริสตจักร
พระคาร์ดินัลจอร์จ เพลล์ (ซ้าย) และสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 (ขวา)
กรณีที่พระคาร์ดินัลเพลล์ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศนั้น ได้ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของคริสตจักรโรมันคาทอลิกในออสเตรเลีย โดยผลสำรวจล่าสุดพบว่า เมื่อปี 2016 จำนวนสมาชิกของคริสตจักรได้ลดลงเป็นอย่างมาก และศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกก็ไม่ได้เป็นศาสนาที่ประชาชนชาวออสเตรเลียนับถือมากที่สุดอีกต่อไป
จากข้อมูลของคณะราชกรรมาธิการออสเตรเลีย ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อปี 2013 พบว่าระหว่างปี 1950-2015 มีนักบวชในออสเตรเลียถึงร้อยละ 7 ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็ก โดยมีนักบวชที่ถูกกล่าวหากว่า 1,800 คน และมีผู้เสียหายเกือบ 4,500 คนที่ออกมาแสดงตัว
ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกัน มีนักบวชในสหรัฐฯ ร้อยละ 4 จากจำนวนนักบวชทั้งหมด 110,000 คน ที่เคยถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ
นอกจากนี้ ในไอร์แลนด์ บราซิล เนเธอร์แลนด์ และเยอรมนี ก็เคยมีรายงานเหตุนักบวชของคริสตจักรโรมันคาทอลิกก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเช่นกัน