ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา เผยยังไม่ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวหาทุจริตเงินทอนวัด แต่หากตำรวจแจ้งข้อหาแล้วจะสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยทันที ขณะที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำข้าราชการที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาต้องถูกสอบวินัย ส่วนที่เกษียณราชการไปแล้วจะถูกดำเนินคดีอาญาเท่านั้น
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทีมกฎหมายของวัดพนัญเชิง แถลงยืนยันว่า มีข้าราชการระดับสูงของ พศ.เรียกรับเงินทอนจากเงินอุดหนุนวัดจำนวน 2 ครั้ง รวมเป็นเงิน 13 ล้านบาท ว่า ได้มอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ไปขอสรุปสำนวนจากกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับข้าราชการของ พศ.มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นบุคคลที่ถูกกล่าวหาต้องไปมอบตัว เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา
นายออมสิน กล่าวว่า คดีนี้มีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อตำรวจแจ้งว่า นางประนอม คงพิกุล รอง ผอ.พศ.มีส่วนเกี่ยวข้อง ขณะที่การดำเนินการกับ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ.ที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันกับเงินทอนวัดด้วยนั้น คงต้องดำเนินคดีอาญา ซึ่งไม่เกี่ยวกับการสอบสวนทางวินัยเนื่องจาก นายนพรัตน์ เกษียณอายุราชการไปแล้ว
พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา กล่าวว่า ขณะนี้ได้จำกัดอำนาจการบริหารของผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตเงินวัดแล้ว โดยจะไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานทั้งด้านงบประมาณ และงานบุคคล เพื่อเป็นการลดอำนาจทั้งหมดจนกว่าทาง ปปป. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดมา
สำหรับเจ้าหน้าที่ของ พศ.ที่เกี่ยวข้องมีทั้งหมด 4 คน ในจำนวนนี้เกษียณอายุราชการไปแล้ว 1 คน คือ อดีตผู้อำนวยการ พศ. ส่วนอีก1คนออกจากราชการไปแล้ว ที่เหลืออีก 2 คน ยังรับราชการ