Big Story ชุด “อนาคตพลังงานไทย ในทิศทางพลังงานโลก”
“Energy silk Road” เป็นแนวคิดของ China Pavilion ที่ประเทศจีน เลือกนำเสนอในงานอัสตานาเอ็กซ์โป 2017 ผ่านระเบียงพลังงานที่ใช้พัฒนาประเทศตามเส้นทางสายไหม ตั้งแต่พลังงานน้ำ ลม น้ำมัน ถ่านหิน และนิวเคลียร์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ด้วยอัตราการผลิตและการนำเข้าที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการพลังงานของคนในประเทศ ทำให้จีนหันมาศึกษาพลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานลมและแสงแดดมากขึ้น ผ่านแคมเปญ A Day with smart energy ใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด โดยรณรงค์ให้ทุกบ้านมีแผงโซล่าเซลล์ ผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เอง ขณะเดียวกัน จีนถือโอกาสนี้ แสดงศักยภาพพลังงานนิวเคลียร์ ที่จะเป็นพลังงานทางเลือกในอนาคต รองรับกับประชากรที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับประเทศในยุโรป ที่พยายามยกเลิกการใช้นิวเคลียร์
พาวินเลียนรัสเซีย ต้อนรับผู้ชมด้วยอุโมงค์พลังงาน สื่อถึงความสามารถในการนำแร่ธาตุใต้พิภพมาเป็นพลังงาน และโดดเด่นด้วยความสามารถขนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือมาตั้งตะหง่านในอาคาร พร้อมจำลอง“เรือโรมานอฟ” ที่รัสเซียพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงแหล่งพลังงานบริเวณขั้วโลกเหนือและมหาสมุทรอาร์กติก เรือนิวเคลียร์เคลื่อนที่แห่งแรกของโลกที่จะไปขุดเจาะน้ำแข็งและน้ำมัน ในอีก 2 ปีข้างหน้า เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าในพื้นที่ขั้วโลก ซึ่งเป็นพื้นน้ำแข็ง ผลิตพลังงานทดแทนอื่นไม่ได้
เช่นเดียวกับนิทรรศการพลังงานของประเทศญี่ปุ่น มีสปอร์ตไลท์ส่องสว่างเป็นพิเศษ เพราะเป็น 1 ใน 3 ประเทศ นอกจากรัสเซียและฝรั่งเศส ที่เสนอตัวแข่งขันเป็นเจ้าภาพจัด World Expo 2025
Japan Pavilion ให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือก ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ญี่ปุ่นมองหาพลังงานทดแทนอื่น ทั้งแสงอาทิตย์ น้ำ และลม มาออกแบบผนวกให้เข้ากับการใช้ชีวิตประจำวัน เป็นพลังงานที่มาทดแทนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ เมื่อปี 2011 จึงใช้โอกาสนี้ ประกาศความพร้อมของเมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ เป็นเจ้าภาพ World Expo ในอีก 8 ปีข้างหน้า
ส่วนสิงคโปร์ แม้เป็นประเทศเล็ก ทรัพยากรธรรมชาติไม่ได้มากเหมือนประเทศอื่น แต่มีฐานะทางเศรษฐกิจดี ชูคอนเซ็ป “Small City Big Idea” ผ่าน 10 โปรเจคสำคัญ เช่น รณรงค์ติดตั้งโซล่าเซลล์บนทุกตึก บ้านทุกหลัง และใช้ระบบน้ำลดอุณภูมิในมาริน่าเบย์ บรรยากาศภายในพาวินเลียน ทำเป็นโคมแก้ว ใช้พลังงานแสงจากธรรมชาติ ทดแทนการใช้ไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
นี่เป็นเพียงพาวินเลียนส่วนหนึ่ง จาก 115 ประเทศ 20 องค์กร ภายในงานอัสตานาเอ็กซ์โป 2017 พื้นที่แสดงศักยภาพและทิศทางพลังงานของแต่ละประเทศ ผ่านแนวคิดหลักของงาน Future Energy พลังงานแห่งอนาคต ซึ่งขณะนี้มีเพียงกว่า 40 ประเทศเท่านั้น ที่สร้างพาว���นเลียนเสร็จแล้ว พร้อมเปิดให้เข้าชมได้ก่อนจะปิดฉากลงในวันที่ 10 กันยายนนี้
และพบกันอีกครั้งใน World Expo 2020 นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ชาติแรกในตะวันออกกลาง ที่คณะกรรมการจัดงาน World Expo ระหว่างประเทศ (บีไออี) คัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ
ติดตามชมตอนอื่นๆ