สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง รายงานอ้างอิงแถลงการณ์จากไมโครซอฟท์ว่า 'ไบต์แดนซ์' ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นจากจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อความจากไมโครซอฟท์ ลงวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ระบุว่า "ไบต์แดนซ์แจ้งให้บริษัททราบวันนี้ว่าจะไม่ขายกิจการในสหรัฐฯ ให้กับไมโครซอฟท์" พร้อมเสริมว่าบริษัทเชื่อมั่นเต็มที่ว่าข้อเสนอที่ยื่นไป เป็นสิ่งที่ดีกับผู้ใช้งาน TikTok ทั้งยังเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ
ทั้งนี้ Washington Post รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดกับการเจรจาว่า 'ออราเคิล' กลายมาเป็นบริษัทที่ได้รับชัยชนะในการแข่งขันเข้าเป็น "หุ้นส่วนทางเทคโนโลยี" พร้อมเงื่อนไขที่ไบต์แดนซ์ยื่นให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ ว่า 'ไบต์แดนซ์' จะขอคงความเป็นเจ้าของ TikTok อยู่ ขณะที่ 'ออราเคิล' จะเข้ามาดูแลเรื่องระบบจัดการข้อมูลและคลาวด์แทน
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวใกล้ชิดอีก 2 รายชี้ว่า ข้อเสนออีกประการที่บริษัทยื่นให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ คือ ไบต์แดนซ์ อาจย้ายสำนักงานใหญ่ออกจากประเทศจีน เพื่อลดความกังวลเรื่องการแทรกแซงข้อมูลจากจีน
อย่างไรก็ตาม Reuters รายงานอ้างอิง CGTN ช่องสื่อภาษาอังกฤษที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน ชี้ว่า ไบต์แดนซ์ จะไม่ขายกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ ให้ทั้ง ออราเคิล หรือ ไมโครซอฟท์ และจะไม่ปล่อยให้ผู้เข้าซื้อกิจการของสหรัฐฯ เข้าถึงแหล่งข้อมูลต่างๆ เด็ดขาด
ขณะที่ ไบต์แดนซ์ ยังไม่ออกแถลงการณ์ถึงสถานการณ์ปัจจุบันแต่อย่างใด
หลายฝ่ายเชื่อว่า การตัดสินใจที่กะทันหันในครั้งนี้ มีขึ้นจากการกดดันอย่างต่อเนื่องของสหรัฐฯ ไม่กี่วันก่อนหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ยังออกมาย้ำว่า รัฐบาลจะไม่เลื่อนเดดไลน์ที่ประกาศก่อนหน้าให้กับแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นที่มีผู้ใช้งานชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคน อย่างแน่นอน
อีกประเด็นที่น่าสนใจจากชัยชนะของออราเคิลที่มีรายรับไม่ติด 5 อันดับแรก ของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี ในปี 2562 ขณะที่ ไมโครซฟอท์รั้งอันดับที่ 2 นั้น คือความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดของบริษัทกับตัวทรัมป์เอง
ซาฟรา แคตซ์ ซีอีโอของออราเคิล เป็นสมาชิกของ Transition Team กลุ่มสนับสนุนทรัมป์ เรื่องนโยบายต่างๆ ขณะที่ ลอร์รี เอลิสัน ผู้ร่วมก่อตั้งของบริษัท ยังเป็นผู้จัดงานระดมทุนให้กับทรัมป์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เท่านั้นยังไม่พอ เลออน เพเน็ตตา อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในยุคประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยังนั่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบอร์ดบริหารของออราเคิลเช่นเดียวกัน
อ้างอิง; CNBC, NYT, FT, The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;