จากกรณีที่นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย บุกชูป้ายที่มีใจความว่า "การ์ดตกพ่องง" และ "อยู่ต่อก็ฉิบหาย ออกไปไอ้สัส" ที่หน้าโรงแรม ดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง เพื่อรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่ทหารอียิปต์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าพัก จนทำให้สถานการณ์บานปลาย และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อกตัวขึ้นรถกระบะไปที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา
กระทั่งทั้งสองคนเดินเท้าออกมาที่ตลาดสตาร์พลาซ่า แต่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับไปแล้ว ต่อมาทั้งสองจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองระยอง เพื่อเอาผิดกับตำรวจทุกนายที่จับกุม ขณะที่ ทาง สภ.เมืองระยองแจ้ง 4 ข้อหาหนักกับทั้งสอง พร้อมนัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ (23 ก.ค.) ตามข่าวที่นำเสนอไป
โดยวันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ 2 เยาวชน ได้เดินทางมาพร้อมด้วยนายภีมร์เดช อมรสุคนธ์ ประธานสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมภาคตะวันออก เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนที่ สภ.เมืองระยอง
นายภานุพงศ์ กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ เพื่อมาแสดงให้ทางตำรวจรับรู้ว่าไม่ได้หลบหนี แต่ไม่ขอรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อแสดงอารยะขัดขืน เพราะว่าทั้ง 2 คน ไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 4 ข้อ เพราะการที่ตนไปแสดงจุดยืนก็ไม่ได้ทราบมาก่อนว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางมา ก่อนไปชูป้ายได้มีการประสานทาง สภ.เมืองระยอง ให้ทราบว่าจะไปชูป้ายสอบถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางตำรวจได้บอกว่านายกฯ จะเดินทางมา ส่วนข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนมากันเพียง 2 คน ไม่มีอาวุธ ไม่ได้กีดขวางเส้นทางแล้วจะผิดได้อย่างไร จึงไม่ขอรับทราบข้อกล่าวหา
ส่วนการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะดำเนินคดีกับทุกคนที่กระทำกับตนทั้ง 2 คน ส่วนกรณีที่ไม่รับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะมีหมายจับต่อไปนั้น ก็ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย คนไม่ผิดจะให้ผิดได้อย่างไร ไม่เคยกลัว ขอให้มาจับเลย
อย่างไรก็ตาม หลัง 2 เยาวชนฯ ประกาศอารยะขัดขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ และเตรียมออกหมายเรียกอีกครั้ง ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับต่อไป