คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และ 30 องค์กรประชาธิปไตย จัดเสวนา "สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย" ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยมีวิทยากรหลายคน เห็นสอดคล้องกันว่าต้องขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา เป็นเรื่องหลักในการหาทางออกให้กับประเทศชาติและประชาชน และบุคคลที่น่าสนใจคือ

พล.อ.ประยุทธ์ คือปัญหาชาติ

จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ปัญหาของชาติอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ใช้ความกะล่อนวางแผนสืบทอดอำนาจรัฐประหาร แยบยลกว่านายทหารรุ่นพี่ ถ้าไม่จัดการพล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนจะไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยยกตัวอย่างการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เป็นไปไม่ได้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นด้วย ขณะที่พลเอกประยุทธ แบ่งแยกประชาชนให้แตกแยกกันแล้วปกครอง เหมือน 'ตาอินกับตานา' และพล.อ.ประยุทธ เป็น 'ตาอยู่' ได้ประโยชน์จากการแบ่งแยกและปกครอง และอยู่ในอำนาจยาวนา

เผด็จการเกรงการตรวจสอบ

วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน กล่าวว่า การออกมาเคลื่อนไหวและมาร่วมเวทีนี้ เพราะไม่อาจปล่อยให้รัฐบาลทาร สร้างความเสียหายให้ชาติต่อไปได้ โดยเฉพาะจากการทุจริต ขณะที่รัฐธรรมนูญที่คณะรัฐประหารกำหนดมาและกฎหมายรวมถึงกลไกรัฐต่างๆ ไม่สามารถตรวจสอบผู้มีอำนาจที่ทุจริตได้ ซึ่งเชื่อว่า ประชาชนจะมาร่วมกันขับไล่พล.อ.ประยุทธ มากขึ้น

แนะลดคำว่าต่อสู้

ณัฏฐา มหัทธา นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมือง เห็นด้วยกับการที่ต้องให้ประชาชนทุกฝ่ายสามัคคีกัน เนื่องจากไม่ใช่แค่ผู้มีอำนาจแบ่งแยกประชาชนเท่านั้น แต่ประชาชนก็แบ่งแยกกันเองด้วย และถึงอย่างไรก็ไม่สามารถแยกประเทศออกจากกันได้ โดยเห็นว่า ควรลดการใช้คำว่า 'ต่อสู้' เพราะฝ่ายเห็นต่างก็ใช้คำนี้ด้วย โดยควรใช้คำ 'หาทางอออก' แทนและใช้คำว่า "สามัคคีประชาชน" เป็น keyword ในการสร้างบรรยากาศในการจับมือกันหาทางออกให้ประเทศ

โดยเสนอว่า ต้องแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา เฉพาะที่เกี่ยวกับการเข้าสู่อำนาจ คือ ระบบการเลือกตั้ง ที่ต้องนำรูปแบบบัตร 2 ใบมาใช้ เพราะสะท้อนเจตจำนงค์ของประชาชน และตัดอำนาจ ส.ว.ไม่ให้มีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ มาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการจัดลำดับความสำคัญ คือแก้รัฐธรรมนูญ สร้างหลักประกันว่าการเลือกตั้งที่เป็นธรรม ส่วนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนต้องใช้เวลา 

ขจัด ส.ว.ผลักดันสภาเดี่ยว

ธิษะณา ชุณหะวัณ กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า ยืนยันว่า นอกจากไล่พล.อ.ประยุทธแล้ว ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยกำจัด ส.ว.ออกไปจากระบบการเมือง ซึ่งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า เสนอให้ยุบเลิกวุฒิสภาผลักดันสภาเดี่ยว ที่นอกจากจะทำให้ประหยัดงบประมาณได้หลายหมื่นล้านบาทแล้ว ยังทำให้การผลักดันกฎหมายรวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย

ล้มเก่าสร้างใหม่

การุณ ใสงาม อดีต ส.ว.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย ได้ยกประวัติตนว่า เคยทำมาทุกอย่างนับแต่เป็นอดีตคอมมิวนิสต์และเคยร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 มาด้วย ซึ่งเชื่อว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันปี 2560 ไม่สามารถแก้ได้ภายใต้เงื่อนไขการเมืองปัจจุบัน และไม่มีทางสร้างระบบการเมืองหรือสังคมที่ดีได้ ถ้าไม่ "ล้มเก่าสร้างใหม่" แต่บีบคอตนให้ตายก็ไม่พูดว่าต้องทำอย่างไรในที่สาธารณะ เพราะพูดไปจะติดคุก 

อย่างไรก็ตาม การุณเห็นด้วยที่คนไทยต้องสามัคคีกัน แต่จะสามัคคีกันได้ต้องเอาลูกหลานที่ยังอยู่ในคุกออกมาก่อน เพื่อมาร่วมกันไล่พล.อ.ประยุทธ และการจะสามัคคีกันได้ ต้องมีการพูดคุยกันก่อน