เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 ม.ค. 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาข้อตกลงและเงื่อนไขผูกพันระหว่างรัฐบาลกับบริษัท แอสตราเซเนกา และบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์เกี่ยวกับการจัดหาและซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่สามารถทำได้ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งขั้นตอนนี้ทาง อนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวง (รมว.) สาธารณสุขได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไปว่าหากต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนสามารถทำได้ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ดังนั้น ตนจึงได้เดินทางมายื่นขอข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
วิโรจน์ กล่าวว่า ตนใช้สิทธิ์ความเป็นประชาชนเพื่อตรวจสอบว่าภาษีและงบประมาณแผ่นดินที่ถูกใช้ไปในการจัดซื้อวัคซีนคุ้มค่าและโปร่งใสจริง จึงขอข้อมูลว่า 1. สัญญาระหว่างรัฐบาลกับ บริษัท แอสตราเซเนกาที่ระบุการจัดซื้อ เงื่อนไขการส่งมอบ เงื่อนไขราคาเงื่อนไขผูกพันต่างๆ 2. สัญญาระหว่างรัฐบาลกับบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่ระบุเงื่อนไขการจัดซื้อเงื่อนไขการส่งมอบและเงื่อนไขผูกพันต่างๆ และ 3. สัญญาระหว่าง บริษัท แอสตราเซเนกา กับ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด ที่มีผลกระทบต่อรัฐ งบประมาณหรือประชาชน เช่นราคาเปรียบเทียบระหว่างราคาที่บริษัทสยามไซเอนซ์ จำกัด จะขายให้กับรัฐบาลไทย เปรียบเทียบกับราคาที่ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด วางแผนขายให้กับประเทศอื่นเป็นต้น
“รวมถึงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกและผลการคัดเลือกการสนับสนุนบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัดของรัฐบาล ข้อมูลเงินสนับสนุนที่รัฐบาลอุดหนุนให้กับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด พร้อมรายละเอียดรายการสนับสนุนว่ารายการใดเป็นจำนวนเงินเท่าใด ซึ่งเดิมทราบว่ารัฐบาลไทยสนับสนุน บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด จำนวน 600 ล้านบาท ต่อมาเปลี่ยนเป็น 1,449 ล้านบาท จึงขอทราบเหตุผลและรายละเอียดการสนับสนุนเพิ่มเติม เพราะงบกลางในการจองวัคซีนจาก บริษัท แอสตราเซเนกา มีวงเงินสำหรับการบริหารจัการวัคซีนจำนวน 2,084ล้านบาท อยากทราบรายละเอียดการบริหารจัดการว่ามีอะไรบ้าง” วิโรจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเดินทางมาถึงนายวิโรจน์ได้พบกับอนุทิน พร้อมแจ้งวัตถุประสงค์ในการมาครั้งนี้ อีกทั้งขอให้ อนุทิน เร่งรัดเรื่องดังกล่าวให้เพื่อประโยชน์กับพี่น้องประชาชน
'อนุทิน' เผยสัญญาซื้อวัคซีน ต้องดูเงื่อนไขเป็นความลับหรือไม่
อนุทิน ระบุถึงกรณีที่วิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่า เป็นการยื่นหนังสือถึงปลัดกระทรวงไม่ใช่ตน เนื่องจากคู่สัญญาคือกระทรวงสาธารณสุข ตนเพียงลงมาส่งผู้ใหญ่แล้วพบเท่านั้น จึงรีบประสานให้ได้พบกัน ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย มีพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารอยู่แล้ว ซึ่งมีขั้นตอนว่าจะต้องทำอย่างไร และอย่าลืมว่าสัญญาจัดซื้อถือเป็นความลับของคู่สัญญา หากต้องการนำมาเปิดเผยต้องได้รับอนุญาตจากคู่สัญญาก่อน เมื่อทุกคนทำตามกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมระบุว่าทุกอย่างไม่ใช่ความลับและทุกอย่างต้องดูที่สัญญา ไม่เช่นนั้นอาจถูกยกเลิก หรือ ขึ้นราคาได้