นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงกรณีที่ บก. ปอท. จะส่งสำนวนคดีของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงงาน ไปยังอัยการในวัน ที่ 12 มี.ค.นี้ จากเหตุการณ์พูดในงานเสวนาเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบของรัฐบาลที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ว่า ภาคประชาชนมีสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์สภาวะการเมืองและสภาวะเศรษฐกิจได้ โดยเห็นว่าจากอดีตถึงปัจจุบันการดูด ส.ส. เป็นสาเหตุหลักสาเหตุหนึ่งของการคอร์รัปชัน เพราะดูดแล้วก็ต้องเข้าไปถอนทุนจากค่าใช้จ่ายมหาศาลในการดูด ส.ส.
นอกจากนี้ นายอดุลย์ยังกล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่นายพิชัยพูดไม่ใช่ข้อมูลใหม่ แต่เป็นข้อมูลที่ปรากฏในสื่อมวลชนทั่วไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนายพิชัยก็บอกชัดเจนว่ามาจากข้อมูลที่ได้รับมา อีกทั้งนายพิชัยก็ไม่ได้พูดว่า คสช.เป็นผู้ดูด ส.ส. นอกเสียจากว่า คสช. เป็นผู้ดูด ส.ส. เสียเอง ไม่ใช่พรรคการเมืองเป็นผู้ดูด ส.ส. ถึงได้มีความเดือดร้อน และต้องเร่งดำเนินคดี
“ผมได้ไปเป็นพยานให้การกับนายพิชัยที่ บก. ปอท. ในเรื่องดังกล่าว และบอกถึงสิทธิของภาคประชาชนในการวิพากษ์วิจารณ์การเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ บก ปอท. ก็เข้าใจและเห็นด้วย แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงยังดำเนินการต่อ คาดว่าน่าจะมีธงมาเพื่อกลั่นแกล้ง ซึ่งภาคประชาชนรับไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่กำลังเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ยังมีการนำคดีประเภทนี้มากลั่นแกล้งกันอีก คสช. น่าจะมีความละอายใจในเรื่องนี้ ในช่วงนี้ประชาชนส่วนใหญ่คงอยากได้ยินได้ฟังนโยบายของพรรคการเมืองมากกว่าจะเห็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองในลักษณะเช่นนี้ จึงขอคัดค้านในเรื่องดังกล่าว เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของภาคประชาชนในการแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรง”
นายอดุลย์ กล่าวต่อว่า เราไม่อยากเห็นเหตุการณ์ซ้ำรอยในอดีตที่ต้องมีคนเจ็บคนตายจากการสืบทอดอำนาจของเผด็จการจึงคัดค้านการ ดูด ส.ส. ซึ่งเป็นสาเหตุของโศกนาฏกรรมในปี 35 เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่อยากให้ บก.ปอท. ตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง อยากให้วางตัวเป็นกลางอย่างแท้จริง หาก บก. ปอท. และ คสช. ยังคงดื้อรั้นทำในสิ่งผิดๆ ภาคประชาชนจะมีมาตรการตอบโต้อย่างรุนแรง ขอร้องสำนักอัยการสูงสุดได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวด้วยความเป็นธรรม อย่าเป็นเครื่องมือของผู้ใด เพื่อรักษามาตรฐานระบบยุติธรรมของประเทศนี้ที่ถูกโจมตีมาโดยตลอด และอยากให้คนไทยทุกคนได้ตระหนักว่า ประเทศไทยกำลังมีพระราชพิธีสำคัญที่ทุกฝ่ายจะต้องสร้างความปรองดองเพื่อให้การเฉลิมฉลองพระราชพิธีเป็นไปอย่างราบรื่นและสมพระเกียรติเพื่อนำมหามงคลมาสู่ประเทศชาติไทยและประชาชนไทยทุกคน
“ช่วงนี้ประชาชนกำลังพิจารณาจะลงคะแนนเสียงเลือกพรรคใดในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นทุกนโยบายที่กำลังเสนอต่อสาธารณะเพื่อการวิพากษ์วิจารณ์และในที่สุดโหวตให้พรรคการเมืองใดเป็นเรื่องใหญ่สำหรับประชาชนเนื่องจากระยะเวลาของการนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองมีระยะเวลาที่สั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งสำหรับหน่วยงาน ปอท. จะเข้ามาแทรกแซงการพิจารณาของประชาชนในขณะนี้ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลความมั่นคงหรือการรักษากติกาล้วนฟังไม่ขึ้น เนื่องจากเกิดข้อครหาสงสัยของประชาชนที่ไม่การยอมรับกับหน่วยงานดังกล่าวรวมถึง กกต.ที่ยังไม่ได้แสดงถึงความเที่ยงธรรมในการควบคุมดูแลในฐานะกรรมการเลือกตั้งครั้งนี้ และได้ปรากฏความพยายามอย่างชัดเจนที่กลั่นแกล้งกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ ตามรายละเอียดตามข่าวที่ปรากฏ จึงขอให้หยุดการกระทำแทรกแซงวิจารณญาณของประชาชนต่อการตัดสินใจเลือกลงคะแนนโดยทันที จนกว่าการเลือกตั้งแล้วเสร็จ”
นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า รู้สึกแปลกใจและไม่สบายใจกรณีข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ออกมาพูดถึงว่ามีคนแช่งให้เครื่องบินตก ซึ่งปกติแล้วไม่น่าจะใช่วัฒนธรรมของชาวไทยถึงแม้จะมีความขึ้งโกรธเคืองมากขนาดไหน ก็คงไม่ถึงขั้นแช่งให้ถึงขั้นเครื่องบินตกตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นมาดำรงตำแหน่งนายกของประเทศไทย หากยังจำได้ครอบครัวญาติวีรชนพฤษภาคม 35 ที่ต้องสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปทั้งบาดเจ็บล้มตายและสูญหายเป็นจำนวนมาก นอกจากแสดงความโกรธแค้นต่อคณะรัฐประหาร รสช. พล.อ.สุจินดา คราประยูร และพวกแต่ก็ไม่เคยสาปแช่งอย่างที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ และในที่สุดพวกเราก็ได้อโหสิให้กับบุคคลเหล่านั้นไปแล้ว พวกเราครอบครัวญาติวีรชนพฤษภาคม 35 บอกได้ว่ามี 2 ประเด็นเท่านั้นคือคนที่เป็นทรราชย์ที่สร้างความเกลียดชังทั่วแผ่นดิน หรือจิตตกคิดมากไปเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง