เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดา นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ทนายความของ วัฒนา เมืองสุข อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า วันนี้ตนและทีมทนายความได้พาวัฒนา มาพบอัยการเนื่องจากในปี 2561 วัฒนาได้โพสต์เฟสบุ๊กให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวิตร อดีตนายกรัฐมนตรี และโพสต์วิจารณ์กรณีการจัดซื้อดาวเทียม ซึ่งถูกตั้งข้อกล่าวหาและพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) นัดส่งสำนวนเห็นควรฟ้องต่อพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ในข้อหายุยงปลุกปั่นฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ในวันนี้
นรินท์พงศ์ ระบุว่าตั้งแต่การรัฐประหารเป็นต้นมา วัฒนา ถูกดำเนินคดีทั้งหมด 12 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีจากการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น จนถูกตั้งข้อกล่าวหา ยุยง ปลุกปั่น ตามมาตรา 116 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งตน และวัฒนามองว่า การใช้กฎหมายปิดปากผู้เห็นต่าง และคดีลักษณะนี้ไม่จำเป็นตกขึ้นมาให้รกศาล หรือเพิ่มงานให้อัยการ ตำรวจควรใข้ดุลพินิจได้ไว้ การแสดงออกทางการเมืองเป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้อย่างชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม นรินท์พงศ์ แจ้งว่า วันนี้ได้ขอเลื่อนการส่งตัวต่ออัยการไปในวันที่ 22 ธ.ค. นี้ และจะทำหนังสือขอความเป็นธรรมเข้ามาให้อัยการ โดยชี้ให้เห็นว่าการกระทำของวัฒนาเป็นการกระทำที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญ
วัฒนา ยังระบุถึงกรณีที่ลาอออกจากพรรคเพื่อไทยว่า เวลานี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องการตั้งพรรค แต่มีการรวมกลุ่มทางการเมืองกันอยู่ ส่วนเรื่องการตั้งพรรคนั้นคงจะมีการตั้งในอนาคต แต่ตนไม่ได้รับผิดชอบในส่วนนี้
วัฒนา กล่าวต่อว่า สิ่งที่พอจะรู้ตอนนี้ก็มีเพียงการไปช่วยหาเสียงของ สุดารัตน์ เกยุราพันธ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และที่ไปก็เพราะได้ไปรับปากกับบรรดาผู้สมัครก่อนที่จะลาออกจากพรรคเพื่อไทย จึงต้องไปทำตามสัญญา
เมื่อถามต่อว่า ได้มีการเชื้อเชิญนักการเมืองคนใดมาร่วมกลุ่มบ้าง วัฒนา ตอบว่า ไม่ต้องไปเชิญเพราะมีแต่คนอยากจะเข้ามาร่วมงานด้วย ไม่ต้องเชิญก็แห่กันมาจนจะรับกันไม่ไหว