ไม่พบผลการค้นหา
รพ.สระบุรี ถูก Ransomware โจมตี ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้อง ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไข ด้าน ผอ.โรงพยาบาลเผย กระแสข่าวว่าถูกแฮกเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 200,000 บิตคอยน์นั้นไม่เป็นความจริง

โรงพยาบาลสระบุรีออกประกาศผ่านเฟซบุ๊กโรงพยาบาลสระบุรี ระบุระบบคอมพิวเตอร์เกิดปัญหาขัดข้อง ทำให้ไม่สามารถทำงานระบบต่างๆ ของโรงพยาบาลได้ และกำลังเร่งดำเนินการแก้ไข เบื้องต้นมีรายงานว่าเป็นการโจมตีของแฮกเกอร์ด้วย Ransomware โดยโรงพยาบาลจะชี้แจงรายละเอียดต่อไป

ขณะที่ประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลสระบุรีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องมาหลายวันแล้ว โดยสาเหตุเกิดจากการโจมตีของแฮกเกอร์ ขณะนี้กำลังเร่งแก้ไขปัญหา และล่าสุดโรงพยาบาลสระบุรีได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า หมายเลขโทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่มีปัญหาขัดข้องชั่วคราว กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

ด้าน นพ.อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี กล่าวชี้แจง กรณีที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียต่างๆ ถึงกรณีที่รพ.สระบุรี โดน Ransomware แฮกข้อมูลและเรียกค่าไถ่ 2 แสนบิทคอยน์ หรือราว 63,000 ล้านบาท ว่า เบื้องต้น ยอมรับว่า ระบบคอมพิวเตอร์โรงพยาบาลสระบุรีขัดข้องจากการโดน Ransomware จริง แต่ในเรื่องของการเรียกค่าไถ่โดยต้องจ่าย 2 แสนบิตคอยน์ เพื่อให้ได้ข้อมูลคืนนั้นไม่เป็นความจริง และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด 

ทั้งนี้ เว็บไซต์สำนักบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า Ransomware เป็นมัลแวร์ (Malware) ประเภทหนึ่งที่มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกับมัลแวร์ประเภทอื่นๆ คือ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด แต่จะทำการเข้ารหัสหรือล็อกไฟล์ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ วิดีโอ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถเปิดไฟล์ใดๆ ได้เลยหากไฟล์เหล่านั้นถูกเข้ารหัส ซึ่งการถูกเข้ารหัสก็หมายความว่าจะต้องใช้คีย์ในการปลดล็อกเพื่อกู้ข้อมูลคืนมา ผู้ใช้งานจะต้องทำการจ่ายเงินตามข้อความ 'เรียกค่าไถ่' ที่ปรากฏ

ขณะนี้ หน่วยงานทางภาครัฐอย่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย หรือ ไทยเซิร์ต (Thai CERT) ยังไม่ได้ออกมาชี้แจง หรือเข้าไปให้การช่วยเหลือ หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับการถูกแฮกครั้งนี้แต่อย่างใด


'ประวิตร' ชี้หน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบการแฮก ระบุมาจากต่างประเทศ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า โดยพลเอกประวิตรพยักหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยเมื่อผู้สื่อข่าวแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของ 'สายสนี วงษ์สุวรรณ' มารดา ที่เสียชีวิตอย่างสงบจากโรคชราเมื่อคืนนี้ด้วยวัย 99 ปี 

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงการแฮกข้อมูลโรงพยาบาลจังหวัดสระบุรีเพื่อเรียกค่าไถ่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เพราะยังไม่ได้รับรายงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบอยู่ ยอมรับไม่เคยมีการแฮ็กข้อมูลของโรงพยาบาลในประเทศไทย ซึ่งการแฮกข้อมูลมาจากต่างประเทศ รวมถึงการพนันออนไลน์ก็มาจากต่างประเทศ ส่วนการวางระบบป้องกันการแฮกข้อมูล เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการ ตนทำคนเดียวไม่ได้