บมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ หรือ EARTH แจ้งตลาดหลักทรัพย์ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน 90 ล้านบาท เหตุขาดสภาพคล่อง เผยเดือนมิ.ย.-ก.ค. มีภาระหนี้ต้องชำระตั๋วบี/อี รวม 520 ล้านบาท ฟาก ก.ล.ต. สั่งชี้แจงสาเหตุ-ผลกระทบ-แผนการแก้ไขปัญหา ภายใน 7 วัน

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การดูแลเรื่องการชำระหนี้ให้ได้ตามกำหนดถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ขอความร่วมมือให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ออกตราสารหนี้ระยะสั้นดูแลให้มีแหล่งเงินทุนสำรองไว้ในกรณีที่อาจประสบปัญหาสภาพคล่อง ในกรณีนี้จึงต้องการให้บริษัทชี้แจงข้อมูลต่อผู้ลงทุนเพื่อป้องกันผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวม

อย่างไรก็ดี จากกรณีที่บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน) หรือ EARTH ได้แจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินในช่วงค่ำของวันที่ 7 มิถุนายน 2560 นั้น เนื่องจากการให้ข้อมูลดังกล่าวยังมิได้มีรายละเอียดที่เพียงพอเกี่ยวกับสาเหตุการผิดนัดชำระหนี้และผลกระทบต่อมูลหนี้อื่น รวมทั้งฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัท 

ขณะที่ ข้อมูลดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์และการตัดสินใจลงทุน รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์ของบริษัท ก.ล.ต. จึงสั่งให้ EARTH ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมถึงสาเหตุการผิดนัดชำระหนี้ ผลกระทบที่เกี่ยวข้องและแผนการแก้ไขปัญหา รวมทั้งเหตุผลที่บริษัทมิได้เตรียมการล่วงหน้าเพื่อมิให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว โดยให้คณะกรรมการ EARTH ชี้แจงต่อ ก.ล.ต. และเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศ
ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 7 วัน 

ด้านบมจ.เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ ชี้แจงกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้งในช่วงเย็นวันที่ 8 มิถุนายน ระบุว่า บริษัทได้ออกตราสารหนี้ประเภทตั๋วแลกเงิน (B/E) เสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน 3 ฉบับ มูลค่าหน้าตั๋วรวม 40 ล้านบาท โดยออกและรับรองตั๋วเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2560 กำหนดวันชำระเงิน 6 มิถุนายน 2560 และกำหนดจ่ายดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.95 ต่อปี โดยหักชำระแล้วในวันที่ออกตั๋ว 

โดยเงินทุนที่ได้จากการออกตั๋วแลกเงินระยะสั้นดังกล่าว บริษัทนำไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนในธุรกิจ และสาเหตุที่ผิดนัดชำระเนื่องจาก บริษัทขาดสภาพคล่องและอยู่ระหว่างการทบทวนสงเงินกับสถาบันการเงิน 

ขณะเดียวกันในวันนี้ (8 มิถุนายน) บริษัทยังผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E จำนวน 50 ล้านบาท โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหนี้ เพื่อทบทวนและกลับมาใช้วงเงินปกติ ซึ่งคาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในเดือนสิงหาคม 2560 

โดยในช่วงเวลาที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้ บริษัทจะมีภาระชำระดอกเบี้ยผิดนัดจากตั๋วแลกเงินฉบับนี้ ร้อยละ 7.5 และการผิดนัดชำระในครั้งนี้ ยังไม่มีผลให้เจ้าหนี้รายอื่นเรียกชำระหนี้ในทันทีได้ 

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมิถุนายน ถึง กรกฎาคม บริษัทมีภาระหนี้ต้องชำระรวมทั้งสิ้น 520 ล้านบาท