ผู้นำจีนและสหภาพยุโรปประกาศพร้อมสู้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกแม้สหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีส แต่การเจรจายังหาข้อสรุปไม่ได้เพราะความเห็นด้านการค้าไม่ตรงกัน
หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศถอนสหรัฐฯออกจากข้อตกลงปารีส ความร่วมมือว่าด้วยการแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่สำคัญที่สุดของโลก ก็ทำให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของชาติมหาอำนาจอย่างจีนและสหภาพยุโรปใกล้ชิดกันมากขึ้น โดยผู้นำจากทั้ง 2 ฝ่ายประกาศจะร่วมมือกันก้าวต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาโลกร้อน
อย่างไรก็ตามเส้นทางการร่วมมือด้านการรักษาสภาวะบรรยากาศโลกดูเหมือนจะไปไม่ได้สวยนักเพราะทั้งจีนและ EU ยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันด้านนโยบายทางการค้าอยู่มากพอสมควร
นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป และนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน เข้าร่วมเจรจากันถึงมาตรการปรับเปลี่ยนนโยบายในการดำเนินธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสะอาดให้มากขึ้น ลดปริมาณการใช้พลังงานฟอสซิล และที่สำคัญคือการร่วมมือระดมทุนเพื่อสนับสนุนประเทศยากจนในการเดินหน้าลดอัตราการปล่อยสารพิษสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกต่อไป ไม่ว่าสหรัฐฯจะเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของข้อตกลงปารีสหรือไม่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การเจรจาดังกล่าวทำให้งานแถลงข่าวของผู้นำทั้ง 2 นั้นล่าช้าออกไปกว่า 3 ชั่วโมงเนื่องจากยังไม่สามารถหาข้อสรุปถึงเรื่องนโยบายการค้าเสรีร่วมกันได้ และอีกหนึ่งประเด็นสำคัญซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดคุยก็คือกรณีอุตสาหกรรมผลิตเหล็กกล้าของจีนที่มีการผลิตเหล็กกล้าออกสู่ตลาดโลกมากจนเกินไป