ไม่พบผลการค้นหา
ผู้สื่อข่าวอิสระชาวต่างชาติ 2 คนถูกคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังเตรียมเดินทางออกจากไทยไปรายงานข่าวการสู้รบที่อิรักแต่เจ้าหน้าที่พบแผ่นป้องกันกระสุนในกระเป๋าเดินทาง เข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์

ผู้สื่อข่าวอิสระชาวต่างชาติ 2 คนถูกคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังเตรียมเดินทางออกจากไทยไปรายงานข่าวการสู้รบที่อิรัก แต่เจ้าหน้าที่พบแผ่นป้องกันกระสุนในกระเป๋าเดินทาง เข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์

นายแอนโทนี เช็ง ผู้สื่อข่าวอิสระสัญชาติอังกฤษ ซึ่งทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีน และนายฟลอเรียน วิทัลสกี ช่างภาพอิสระสัญชาติเยอรมัน ถูกคุมตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิช่วงค่ำวานนี้ (29 พฤษภาคม) หลังจากทั้งคู่เตรียมเดินทางออกจากไทยเพื่อไปรายงานสถานการณ์ข่าวในประเทศอิรัก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.สมชาติ มณีรัตน์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุว่าผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษกระทำผิดข้อหามียุทธภัณฑ์ในครอบครอง จึงถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว 

ด้านนายเช็งและนายวิทัลสกีเผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ระหว่างอยู่ในห้องควบคุมตัวชั่วคราวที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อค่ำวานนี้ ระบุว่าสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางสำหรับขึ้นเครื่องบิน คือ หน้ากากป้องกันสารเคมีและแผ่นป้องกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิด เนื่องจากพวกเขากำลังเดินทางไปรายงานข่าวการสู้รบในเมืองโมซุลของอิรัก ซึ่งเป็นสมรภูมิสู้รบระหว่างกองทัพอิรักและกลุ่มติดอาวุธที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลามหรือไอเอส

อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ของไทย ระบุว่า “ยุทธภัณฑ์ หมายถึงอาวุธ เครื่องอุปกรณ์ของอาวุธ สารเคมี สารชีวะ สารรังสี หรือเครื่องมือเครื่องใช้ที่อาจนำไปใช้ในการรบหรือการสงครามได้” ซึ่งรวมถึงแผ่นป้องกันกระสุนและสะเก็ดระเบิด ตลอดจนหน้ากากป้องกันสารเคมี ทำให้ผู้สื่อข่าวชาวต่างชาติทั้งคู่ถูกคุมตัว

(การชุมนุมที่เกิดการปะทะรุนแรงหลายครั้งในประเทศไทย เป็นหนึ่งในเหตุผลที่สื่อต่างชาติได้รับคำแนะนำให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเอง)

ด้านนายโดมินิก โฟลเดอร์ ประธานสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) เปิดเผยกับวอยซ์ทีวีว่าขณะนี้ทางสมาคมกำลังให้การช่วยเหลือสื่อมวลชนทั้งสองราย โดยรายหนึ่งได้รับการปล่อยตัวแล้ว แต่อีกรายหนึ่งยังถูกควบคุมตัวอยู่

ในเวลาต่อมา FCCT ได้ออกแถลงการณ์ว่านายเช็งถูกตั้งข้อหาละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงอาจถูกจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี แต่ FCCT ยืนยันว่านายต้องนำอุปกรณ์ป้องกันตัวดังกล่าว ซึ่งได้แก่ หน้ากากป้องกันสารเคมีและแผ่นป้องกันกระสุน ไปใช้นอกประเทศไทย บ่งชี้ให้เห็นว่าเขาไม่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทย ทาง FCCT จึงขอเรียกร้องให้ทางการไทยยกเลิกข้อกล่าวหานายเช็ง และควรพิจารณาแนวทางที่จะรับรองให้ผู้สื่อข่าวสามารถใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไปในอนาคต

กรณีสื่อมวลชนถูกจับกุมเพราะมียุทธภัณฑ์ในครอบครองในประเทศไทยครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก โดยในปี 2015 นายแอนโทนี กวาน ผู้สื่อข่าวชาวฮ่องกง ถูกจับกุมและตั้งข้อหาขณะเตรียมออกจากประเทศไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยก่อนหน้านั้น นายกวานสวมเสื้อเกราะกันกระสุนระหว่างรายงานข่าวเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่ของไทยห้ามแต่อย่างใด แต่เขาถูกกักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิเพราะนำเสื้อเกราะใส่กระเป๋าเดินทางสำหรับขึ้นเครื่อง

ในครั้งนั้น คณะกรรมการปกป้องสื่อระหว่างประเทศ (CPJ) ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าอุปกรณ์ป้องกันตัวถือเป็นสิ่งจำเป็นในการรายงานข่าวในสถานการณ์ขัดแย้ง โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เคยเกิดเหตุการณ์สื่อมวลชนถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุมประท้วงรัฐบาลในปี 2010 จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยต้องพิจารณาปรับเปลี่ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาวุธยุทธภัณฑ์ ขณะที่ทางการไทยระบุว่าผู้สื่อข่าวต่างชาติต้องปฏิบัติตามกฎหมายไทย

(เพิ่มเติมข้อมูล: 16.44 น.)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: FCCT ผิดหวังไทยจับช่างภาพฮ่องกงพบเสื้อเกราะ-หมวกกันกระสุน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog