นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์พูดติดตลกระหว่างกล่าวปราศรัยภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ว่าเขาอนุญาตให้ทหารข่มขืนผู้หญิงได้ 3 คน ซึ่งก็ทำให้เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ขนาดลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯยังออกมาตอบโต้ว่าเรื่องข่มขืนไม่ใช่เรื่องตลก
นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เขากล่าวติดตลกในระหว่างการปราศรัยภายในค่ายทหารแห่งหนึ่งในฟิลิปปินส์ว่า เขาอนุญาตให้ทหารข่มขืนผู้หญิงในพื้นที่ที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกทางตอนใต้ของประเทศได้ 3 คน โดยเขาจะเป็นผู้รับผิดแทนทหารเอง แต่ถ้าทหารคนไหนริมีภรรยา 4 คน ทหารคนนั้นจะต้องโดนรุมซ้อมแน่นอน
นับเป็นครั้งที่สอง ที่นายดูแตร์เต ถูกวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการนำเรื่องข่มขืนมาพูดติดตลก โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยกล่าวระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เกี่ยวกับมิชชันนารีสาวชาวออสเตรเลียที่ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในเรือนจำเมืองดาเบา ว่าเธอถูกข่มขืนเพราะสวยเกินไป และตัวเขาในฐานะนายกเทศมนตรีของเมืองดาเบาควรจะเป็นคนที่ได้ข่มขืนเธอเป็นคนแรก
กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างออกมาประณามว่ามุกตลกของนายดูแตร์เตเป็นเรื่องที่ต่ำทราม แม้แต่เชลซี คลินตัน บุตรสาวของนายบิล คลินตัน อดีต ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้ทวิตข้อความตอบโต้คำพูดของนายดูแตร์เต ว่าไม่ใช่เรื่องขำสักนิด เพราะว่าการข่มขืนไม่เคยเป็นเรื่องตลก และเธอยังกล่าวหาว่านายดูแตร์เตเป็นโจรและฆาตกรที่ไม่สนใจสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สื่อจะต้องนำเสนอความจริงข้อนี้ให้คนทั่วโลกเห็น
ด้านฮิวแมนไรท์วอทช์ก็แถลงว่าคำกล่าวของประธานาธิบดีดูแตร์เตนั้นเป็นการส่งสัญญาณให้กองทัพฟิลิปปินส์ทราบว่า รัฐบาลเปิดไฟเขียวให้กองทัพละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่กฎอัยการศึกได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆกำลังกังวลเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ที่กำลังมีการต่อสู้กับกลุ่มกบฎติดอาวุธที่สวามิภักดิ์กับกลุ่มก่อการร้ายไอเอส โดยนายดูแตร์เตได้แสดงความคิดเห็นว่าเขาอาจจะขยายเวลาการประกาศกฎอัยการศึกให้นานถึง 1 ปี ทั้งที่กฎหมายอนุญาติให้ใช้ได้แค่ 60 วัน และขยายพื้นที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ จนอาจนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรง เพราะกฎอัยการศึกอนุญาตให้ทหารควบคุมตัวประชาชนได้โดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหา
ภาพ: AP