ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย หนุนใช้ม.44 เปิดม.ชั้นนำโลกเข้ามาตั้งในไทย เชื่อสร้างความตื่นตัวให้มหาวิทยาลัยในไทย
นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) และประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 ให้สถาบันอุดมศึกษาจากต่างประเทศที่มีศักยภาพสูงมาเปิดสอนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เน้นการผลิตเฉพาะสาขาขาดแคลนที่มหาวิทยาลัยไทยเปิดสอนไม่ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เห็นด้วย เพื่อรองรับการพัฒนาบุคลากรยุคไทยแลนด์ 4.0 ว่า ดีมาก เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องการให้มหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับโลกมาจัดตั้งในไทย มาสร้างบรรยากาศด้านการศึกษา การวิจัย และองค์ความรู้ระดับโลก อีกทั้งถ้ามหาวิทยาลัยชั้นนำเข้ามาจัดตั้งในไทย มหาวิทยาลัย นักวิจัย อาจารย์ ผู้บริหาร และนักศึกษา จะเรียนรู้จากมหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านั้น
“เมื่อมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเข้ามาจัดตั้งในไทย จะเกิดการแข่งขันอย่างแน่นอน แต่มหาวิทยาลัยที่เข้ามาจะต้องเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำจริงๆ ไม่เช่นนั้นก็อยู่ไม่ได้ เพราะการจัดการศึกษาต้องสะท้อนต้นทุน และถ้าไม่ดีจริง พ่อแม่ก็คงส่งลูกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไทย นอกจากนี้ เราต้องคิดถึงการเปิดเสรีทางการศึกษา แม้หลายคนจะมองว่ากฎหมายมีอยู่แล้ว ควรจะแก้กฎหมายมากกว่าใช้มาตรา 44 นั้น ถ้าแก้กฎหมายคงไม่ทัน เพราะกฎหมายพัวพันกันเยอะ บางทีพอบอกว่าจะใช้มาตรา 44 คนก็กลัวกัน แต่จริงๆ เป็นการดึงดูดมหาวิทยาลัยต่างประเทศเข้ามาไทย เพื่อทำให้นักวิจัย อาจารย์ นักศึกษา และผู้บริหาร กระตือรือร้น” นายสุชัชวีร์ กล่าว
นายสุชัชวีร์ กล่าวอีกว่า ที่นักวิชาการมองว่าปัจจุบันมหาวิทยาลัยไทยมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศอยู่แล้ว น่าจะใช้ความร่วมมือนี้ให้เป็นประโยชน์นั้น แม้มีความร่วมมือกันอยู่ แต่ไม่สามารถทำได้หลายอย่าง เช่น ให้อาจารย์ต่างชาติมารับเงินเดือน 1-2 หมื่นบาท เหมือนอาจารย์ไทย ถึงแม้จะทำได้ ก็ยังติดปัญหาอื่นๆ อีก เช่น การคืนภาษี หรือกฎระเบียบต่างๆ ที่บีโอไอจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง ฉะนั้น การใช้มาตรา 44 ก็เพื่อเปิดทางสะดวกให้มหาวิทยาลัยต่างชาติเข้ามาจัดตั้งได้ แต่ก็ต้องเป็นไปอย่างมีหลักเกณฑ์
“ผมถามว่ากลัวอะไรกัน มหาวิทยาลัยไทยอยากไประดับโลกหรือไม่ ผมเชื่อว่าเรื่องนี้จะทำให้มหาวิทยาลัยไทยขึ้นไปในระดับโลกได้เร็วขึ้นเหมือนอย่างสิงคโปร์ แต่คำถามที่ผมกังวลในตอนนี้คือ มหาวิทยาลัยระดับโลกเหล่านั้นจะเข้ามาจัดตั้งในไทยหรือเปล่า ส่วนการใช้ภาษาอังกฤษในการจัดการเรียนการสอนนั้น คงไม่ใช่ปัญหา เพราะมีพ่อแม่บางกลุ่มที่พยายามส่งลูกไปเรียนต่างประเทศอยู่แล้ว ประกอบกับรัฐบาลไทยใช้งบประมาณส่งนักเรียนทุนไปเรียนต่างประเทศเป็นหมื่นล้านบาทต่อปี ถ้ามหาวิทยาลัยชั้นนำมาจัดตั้งในไทย จะทำให้ประหยัดงบฯ ได้เยอะ พ่อแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงลูกๆ ทั้งนี้ ผมคงไม่นำเรื่องนี้เข้าหารือในการประชุม ทปอ.ในเดือนมิถุนายนนี้ เพราะ ทปอ.ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา และหวังว่าจะมีมหาวิทยาลัยดีๆ มาจัดตั้งเหมือนอย่างสิงคโปร์” นายสุชัชวีร์ กล่าว