ไม่พบผลการค้นหา
กลับมาเป็นที่สนใจของคนไทยอีกครั้งเมื่อสื่อระดับโลกอย่างเอพี ตามไปถึงบ้านของ "บอส วรยุทธ อยู่วิทยา"ที่อังกฤษ หลังจากเบี้ยวนัดศาล

กลับมาเป็นที่สนใจของคนไทยอีกครั้งเมื่อสื่อระดับโลกอย่างเอพี ตามไปถึงบ้านของ "บอส วรยุทธ อยู่วิทยา"ที่อังกฤษ หลังจากเบี้ยวนัดศาล

เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา อัยการได้ออกหมายเรียกให้นายวรยุทธเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่นายวรยุทธกลับไม่มารายงานตัว โดยทนายความของนายวรยุทธระบุว่า นายวรยุทธติดภารกิจในต่างแดน อัยการจึงได้ออกหมายเรียกอีกครั้งในวันที่ 27 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้ พร้อมย้ำว่า หากนายวรยุทธไม่มารายงานตัวก็จะออกหมายจับต่อไป เราจึงอยากแนะนำให้คุณรู้จักกับ "ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง" อย่าง บอส วรยุทธ อยู่วิทยา

ทายาทหมื่นล้าน "Red Bull" สู่ผู้ต้องหาคดีซิ่ง

นาย วรยุทธ์ อยู่วิทยา หรือบอส เป็นทายาทธุรกิจกระทิงแดง หรือเรดบูลที่โด่งดังอยู่ทั่วโลก วรยุทธ อยู่วิทยา ปัจจุบันอายุ 31 ปี จบการศึกษาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ จากเซนต์มาร์ติน ลอนดอนประเทศอังกฤษ เป็นบุตรชายของนายเฉลิม อยู่วิทยา และนางดารณี อยู่วิทยา เป็นบุตรคนเล็ก ในจำนวนพี่น้อง 3 คน ประกอบไปด้วยคนโต น.ส.วรางคณา อยู่วิทยา (แชมเปญ) สมรสกับ ม.ล.กอกฤษต กฤดากร คนที่2คือ นายวาริท อยู่วิทยา (ปอร์เช่) และบอสเป็นคนสุดท้อง

ตระกูลอยู่วิทยามักติดอันดับเศรษฐีเมืองไทย ซึ่งต้องชมวิสัยทัศน์ของ เฉลียว อยู่วิทยาซึ่งเป็นรุ่นปู่ของบอสด้ขยายธุรกิจกระทิงแดงไปต่างประเทศ โดยลงทุนร่วมกับนายดีทริช เมเทสซิทซ์ (Dietrich Mateschitz) นักธุรกิจชาวออสเตรีย ก่อตั้งบริษัท Red Bull GmbH. ในประเทศออสเตรีย โดยนายเฉลียวถือหุุ้น 49% และนายเฉลิม ลูกชายถือหุ้นอีก 2% ผลิตและวางจำหน่ายกระทิงแดงในยุโรปภายใต้ยี่ห้อ เรดบูล และส่งไปขายในกว่า 70 ประเทศทั่วโลกตั้งแต่ปี 2557

บอส เป็นคนชื่นชอบความเร็วมาตั้งแต่เด็ก แม้กระทั่งในช่วงที่อัยการยังไม่สั่งฟ้องคดีเขายังใช้เวลาว่างบนที่นั่งวีไอพีขอบสนามเพื่อติดตามเชียร์ทีมแข่งรถฟอร์มูล่าวัน ของเรดบลูส์ แต่ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาลในคืนวันที่ 3 กันยายน 2555 

"เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" ลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง?

สโลแกน "เป้าหมายมีไว้พุ่งชน" คือคำที่ติดหูของแรนด์กระทิงแดงที่มาพร้อมกับโฆษณาของดริฟต์คิง กีกี้ ศักดิ์ นานา แต่การพุ่งชนของบอสนั้นแตกต่างออกไป ชีวิตของ ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งาน (ป.) สน.ทองหล่อ ต้องดับลง เพราะเขาถูกรถสปอร์ต เฟอร์รารี่ รุ่นพินอินฟาริน่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ญญ 1111 กรุงเทพมหานคร ที่ขับขี่โดยนายวรยุทธชน และลากไปอีก 100 เมตรก่อนเข้าไปหลบในบ้านซอยสุขุมวิท 53

ในขณะนั้นมีการสอบปากคำโดยอ้างว่าไม่ใช่นาย วรยุทธเป็นคนขับแต่เป็นพ่อบ้านเป็นผู้ขับรถยนต์ ซึ่งสังคมจับตาว่าเป็นกรณีลูกคนรวยทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ คดีได้เนิ่นนานมาจนถึงยุค พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ซึ่งขณะนั้นเป็น รรท.ผบช.น. อัยการยังไม่สั่งฟ้องเสียที ซึ่งมาพร้อมกับวาทกรรม นายวรยุทธ"เมาหลังขับ"ไม่ใช่ "เมาแล้วขับ"

ทั้งนี้ นายวรยุทธถูกพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อแจ้งความใน 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย 1.ขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งมีอายุความ 15 ปี 2.ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชน ซึ่งมีอายุความ 5 ปี แปลว่าจะหมดอายุความในปีนี้ และ 3.ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ที่มีอายุความเพียงปีเดียว ทำให้หมดอายุความไปแล้วสะท้อนปัญหากระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า 

คดีกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งเมื่อปลายเดือนมีนาคมนักข่าวเอพีไปขุดคุ้ยชีวิตสุดหรูหราบินรอบโลกด้วยเครื่องบินเจ็ตของเรดบูล ไปชิลตามที่ต่างๆรอบโลก ความสนใจพุ่งตรงไปที่ ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ต้องออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้เพิกเฉย แต่เคยแถลงความคืบหน้าไปเมื่อ 29 มีนาคม 2559 แต่เมื่อถึงวันดังกล่าว นายวรยุทธกลับไม่ปรากฎตัวและส่งทนายมาแจ้งว่าติดภารกิจอยู่ที่อังกฤษ

จนนักข่าวเอพีเดินทางไปอังกฤษเพื่อถามว่า 27 เมษายนที่เป็นเดทไลน์หากไม่มาจะเจอหมายจับคุณจะกลับไปไหม? แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด  และในปัจจุบัน นายวรยุทธยังถือหุ้น10% บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ และ คาวาลลิโน เซอร์วิส จำกัด ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากเฟอร์รารี่ให้เป็นตัวแทนจำหน่าย และซ่อมบำรุงรถยนต์เฟอร์รารี่ในไทยอีกด้วย

จับตาไปพร้อมๆกัน 27 เมษายนเขาจะมาตามนัดหรือระบบยุติธรรมไทยจะสะท้อนภาพคนจนตายฟรี คนมีเงินไม่ติดคุกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเอพีเสนอข่าวล่าสุดว่าย้ายออกจากบ้านที่ลอนดอนแล้ว!?

 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog