ผ่านมา5 วันแล้ว ที่วอยซ์ทีวี ถูกระงับการออกอากาศชั่วคราว จากคำสั่งของ กสท. แต่สถานีก็ยังคงยืดหยัดเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน โดยทำงานนำเสนอข่าวสารออกสู่ประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ด้านองค์กรสื่อทั้งในและต่างประเทศ ต่างออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ กสท. ทบทวนคำสั่ง และปฏิบัติตามพันธกรณีกติการะหว่างประเทศ
5 วันแล้ว ที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เปลี่ยนช่องทางการออกอากาศจากระบบโทรทัศน์ดิจิตอลช่อง 21 มามุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารและรายการต่างๆผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งเว็ปไซด์ และเฟสบุ๊ก เพื่อยืนหยัดการทำหน้าที่สื่อมวลชนนำเสนอความจริงสู่สังคม หลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. มีมติเอกฉันท์ สั่งพักใบอนุญาติชั่วคราวสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เป็นเวลา 7 วัน ให้มีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา
“การยึดมั่นบนพื้นฐานวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างเคร่งครัด แม้เนื้อหามีความเห็นต่างแต่ไม่กระทบต่อความมั่นคง” เป็นคำแถลงการณ์ที่แสดงเจตนารมย์ในการทำหน้าที่สื่อมวลชนจากผู้บริหารวอยซ์ทีวีต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพ เพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพ พร้อมเตรียมดำเนินการทางแพ่งและปกครอง กับ กสท. เพราะคำสั่งนี้กระทบต่อธุรกิจ
และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่คำสั่งของหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ จะสวนกระแสกับองค์กรสื่อนานาชาติและองค์กรสื่อในประเทศ ที่ต่างเห็นพ้องให้ กสท. ทบทวนคำสั่งนี้
31 มีนาคม Human Rights Watch องค์การด้านสิทธิมนุษยชนระดับโลก ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้กสท.ไทยยุติคำสั่งระงับการออกอากาศชั่วคราวของวอยซ์ทีวี ระบุนี่เป็นการปิดกั้นการแสดงออกความคิดเห็นอย่างเสรี และเป็นการส่งเสริมการใช้อำนาจของรัฐบาลทหารอย่างชัดเจน
นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ ฮิวแมนไรท์สวอทช์ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า มาตรการลงโทษสื่อของรัฐบาลทหาร คสช. ครั้งนี้ คือความพยายามที่จะเข้ามาควบคุมช่องวอยซ์ทีวี ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสื่อที่เปิดกว้าง ให้กลายเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงของรัฐบาลทหาร นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังต้องการให้วอยซ์ทีวีหยุดรายงานข่าวที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การสืบสวนความไม่ชอบมาพากลในการทำงานของภาครัฐ และการเปิดโปงความไม่โปร่งใสในการใช้อำนาจของรัฐบาล
ไม่เพียงแต่ฮิวแมนไรท์วอทซ์เท่านั้นที่ออกแถลงการณ์สนับสนุนการทำงานสื่อสารมวลชนของวอยซ์ทีวี แต่หลังกสท. มีคำสั่งดังกล่าว คณะกรรมการปกป้องสื่อมวลชน หรือ CPJ และ สมาพันธ์สื่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ซีป้า เป็น 2 องค์กรแรก ที่ออกแถลงการณ์ตำหนิคำสั่งพักใบอนุญาตวอยซ์ทีวี โดยระบุว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ทำลายสิทธิ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และยังสวนทางกับสิ่งที่รัฐบาลเคยพูดไว้ ว่าจะคืนประเทศกลับสู่ประชาธ���ปไตย
วันที่ 29 มีนาคม สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองบริโภคสื่อ ออกแถลงการณ์คัดค้านมติ กสท. เช่นกันพร้อมเรียกร้องให้ทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาต วอยซ์ ทีวี ย้ำเป็นการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ละเมิดสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน และยังขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านประชามติ ที่ให้การรับรองเสรีภาพเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ
แม้แต่ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ที่เพิ่งประกาศยุติการทำหน้าที่ กสทช.ชั่วคราว ยังทวิตข้อความถึงกรณีพักใบอนุญาต 7 วันวอยซ์ทีวีในครั้งนี้ เปรียบเทียบตนเองก็คือพักใช้เหมือนกัน รอวันเพิกถอน และหากนั่งอยู่ในห้องประชุม ก็คงเป็นเสียงข้างน้อยอีกทั้ง 2 เรื่อง พร้อมเห็นว่ากรณี voicetv มติลงโทษเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมาก
ไม่แตกต่างจากสมาคมโทรทัศน์ระบบดิจิตอล (ประเทศไทย) ที่แสดงความเห็นว่า การปิดวอยซ์ทีวี 7 วัน รุนแรงเหมือนโทษประหารสื่อ กสท.ควรปิดเฉพาะรายการหรือตัวบุคคลที่กระทำผิดซ้ำ พร้อมเสนอตั้งคนกลาง ไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่าง วอยซ์ทีวี กับ กสทช.
เหตุผลที่ กสท. ระงับการออกอากาศทั้งช่อง เป็นเวลา 7 วัน คือ วอยซ์ ทีวีทำความผิดซ้ำซาก ออกอากาศรายการขัดต่อประกาศ คสช. ฉบับที่ 97 /2557และ 103/2557 ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมยุยงให้มีความแตกแยกและขัดต่อ พ.ร.บ. ประกอบกิจการกระจายเสียงฯ มาตรา 37 กว่า 10 ครั้ง และล่าสุดคือ 3 รายการ
1.รายการ ใบตองแห้ง ออกอากาศวันที่ 15 มีนาคม 2560 เรื่อง จากธัมมี่ถึงทักกี้ประเทศนี้ยังปรองดองได้อยู่หรือ /
2.รายการ In her View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องไล่เรียงเหตุการณ์จังหวะแห่งข่าวโกตี๋กับอาวุธพร้อมแถลงการณ์แผนลอบสังหาร /
3.รายการ Over View ออกอากาศวันที่ 20 มีนาคม 2560 เรื่องกองทัพป้องทหารยันยิงทิ้งเด็กล่าหู่ถูกต้องทุกกรณี
คำสั่งระงับการออกอากาศชั่วคราวนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีต้องเผชิญ หลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อปี 2557 วอยซ์ ทีวี ถูกปิดครั้งแรก 26 วัน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ถึง 14 มิถุนายน 2557 ถือเป็นทีวีดิจิตอลเพียงช่องเดียวที่ถูกสั่งระงับการออกอากาศ และเมื่อได้รับอนุญาตให้ออกอากาศอีกครั้ง วอยซ์ทีวีต้องเผชิญกับการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอหลายครั้ง โดยเวบไซต์ไอลอว์ จัดทำไทม์ไลน์ช่วงเวลาปิดกั้นการรายงานข่าวของวอยซ์ ทีวี ดังนี้
- 3 มิถุนายน 2558 ระงับการออกอากาศรายการ Wake Up Thailand 2 สัปดาห์
- 15 กุมภาพันธ์ 2559 ระงับการออกอากาศ รายการ The Daily Dose 3 วัน
- 15 สิงหาคม 2559 (วาระที่ 2) ระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 10 วัน
- 29 สิงหาคม 2559 ระงับการออกอากาศ รายการ Wake Up News 7 วัน
- 7 กุมภาพันธ์ 2560 ระงับการออกอากาศ รายการ The Daily Dose 7 วัน
- 4 มีนาคม 2560 ระงับการดำเนินรายการของพิธีกร 10 วัน
- ล่าสุด 27 มีนาคม 2560 ระงับการออกอากาศทั้งช่อง เป็นเวลา 7 วัน
- และการถูกเรียกตักเตือนมาแล้วกว่า 10 ครั้ง
และในวันที่ 4 เมษายนนี้ วอยซ์ทีวี จะคืนสู่หน้าจอโทรทัศน์หมายเลข 21 อีกครั้ง และยังคงยืนยันที่จะนำเสนอข่าวสารภายใต้แนวคิด ฉลาดคิด ฉลาดใช้ชีวิต เพื่อปลุกความคิดที่เป็นประโยชน์ให้กับผู้ชมและสังคมไทย