จาตุรนต์ ฉายแสง  แกนนำพรรคเพื่อไทยได้รับข่าวดี เมื่อศาลปกครองมีคำสั่งเพิกสอนคำสั่งกระทรวงการต่างประเทศ ที่ระงับพาสปอร์ตหลังรัฐประหาร

วันนี้ (31 มี.ค.) ศาลปกครองกลางได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 57/2559 ที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ยื่นฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ, กรมการกงสุล, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ, อธิบดีกรมการกงสุล, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ถูกฟ้องคดี 1-7 ขอให้ศาลเพิกถอนคำร้องและคำสั่งของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งเจ็ดที่ยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับของนายจาตุรนต์ ผู้ฟ้องคดี

ก่อนหน้านี้นายจาตุรนต์ได้ฟ้องว่าคำสั่งดังกล่าวที่ยกเลิกพาสปอร์ตทั้ง3เล่มไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีอำนาจ ต้องการเพียงตอบโต้ผู้ฟ้องคดีที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งในกรณีดังกล่าวนายจาตุรนต์ไม่ได้มีหมายจับแต่อย่างใด และกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการอย่างเร่งรีบ

ศาลปกครองมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของกรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยอธิบดีกรมการกงสุล ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 ที่ยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับของผู้ฟ้องคดี โดยให้มีผลย้อนหลังไปนับแต่วันที่มีคำสั่งยกเลิก คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก โดยให้เหตุผลว่า ทัยังไม่ปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 7 ได้ใช้มาตรการยกเลิกหนังสือเดินทางกับบุคคลอื่นที่มีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกับผู้ฟ้องคดีที่ฝ่าฝืนคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและเป็นผู้ต้องหาคดีอาญาตามมาตรา 116 แห่งประมวลกฎหมายอาญาเช่นเดียวกันกับผู้ฟ้องคดี กรณีจึงถือได้ว่ากรมการกงสุลและอธิบดีกรมการกงศุลใช้ดุลพินิจในการออกคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางทั้ง 3 ฉบับโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย 

หลังจากการรัฐประหารในวันที่ 27 พฤษภาคม 2557 นายจาตุรนต์ได้จัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ขอให้คสช.คืนอำนาจให้ประชาชนยืนยันว่าขอเดินแนวทางสันติวิธีและพร้อมถูกจับกุม ก่อนแถลงจบมีทหารกว่า 20นายบุกเข้าจับกุมตัวนายจาตุรนต์