​ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาประกาศไม่ให้ยูเอ็นเข้าไปตรวจสอบการละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญา เพราะถือเป็นการคุกคามความมั่นคงแห่งชาติ

พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายน์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาประกาศว่า การที่สหประชาชาติจะส่งทีมเข้าไปตรวจสอบการละเมิดสิทธิของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ถือเป็นการคุกคามความมั่นคงของเมียนมา

นอกจากนี้ ยังพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่ายน์ ยังกล่าวอีกด้วยว่า กองทัพเมียนมาจะไม่ยอมให้ยูเอ็นเข้าไปในพื้นที่ ตามกฎหมายและหน้าที่ที่กองทัพควรทำ และกองทัพยังมีหน้าที่ปกป้องอำนาจอธิปไตยเมียนมา เมื่อถูกโจมตีด้วยปัญหาทางการเมือง ศาสนา และชาติพันธุ์ พร้อมยืนยันว่า เมียนมาไม่มีชาวโรฮิงญา และชาวเบงกาลีก็ไม่ใช่พลเมืองของเมียนมา เป็นเพียงคนที่มาอาศัยในประเทศเท่านั้น โดยเบงกาลี เป็นคำที่รัฐบาลและกองทัพเมียนมาใช้เรียกชาวโรฮิงญา

ท่าทีดังกล่าวมีขึ้น เพื่อตอบโต้ที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 มี.ค.) คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมีมติให้ส่งเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเข้าไป ตรวจสอบและค้นหาความจริงเกี่ยวกับการสังหารหมู่ ทรมานและข่มขืนชาวโรฮิงญาโดยเจ้าหน้าที่รัฐในรัฐยะไข่ หลังยูเอ็นออกรายงานจากการสัมภาษณ์ชาวโรฮิงญา 220 ค��ที่อพยพออกจากรัฐยะไข่มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งมีข้อมูลชัดเจนว่ากองทัพเมียนมาอาจเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์