ไม่พบผลการค้นหา
การเฆี่ยนตีผู้กระทำกฎหมายชารีอา กลับกลายมาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของอาเจะห์ของอินโดนีเซีย บริษัททัวร์จัดโปรแกรมดูการเฆี่ยนประจาน

การเฆี่ยนตีผู้กระทำกฎหมายชารีอา กลับกลายมาเป็นจุดขายด้านการท่องเที่ยวของอาเจะห์ของอินโดนีเซีย บริษัททัวร์จัดโปรแกรมดูการเฆี่ยนประจาน


เว็บไซต์ โคโคนัทส์ จาการ์ตา รายงานว่า ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางไปดูการเฆี่ยนประจานผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายชารีอาที่อาเจะห์ ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในอินโดนีเซียที่ปกครองด้วยกฎหมายชารีอา เนื่องจากบริษัททัวร์จัดให้นักท่องเที่ยวไปดูการลงโทษนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวหลายคนจะเดินทางจากมาเลเซียโดยรถบัสและเข้าไปดูมัสยิดลัมเตห์ ในบันดาอาเจะห์ เพื่อดูคนหลายสิบคนถูกเฆี่ยนตี จากความผิดที่หลากหลายตั้งแต่เล่นการพนัน ไปจนถึงพลอดรักกันระหว่างหนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน

นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลกต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า การลงโทษชาวมุสลิมและคนที่นับถือศาสนาอื่นด้วยการเฆี่ยนตีในอาเจะห์ถือเป็นมาตรการที่ทารุณและขัดกับหลักสิทธิมนุษยชน และชาวมุสลิมบางส่วนก็มองว่ากฎหมานชารีอารุนแรงและสามารถจัดการอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหนึ่งในคนที่ไปเที่ยวดูการเฆี่ยนตีก็คือ ส.ว.คนหนึ่งของมาเลเซียที่เปิดเผยว่า เขาเคารพวิธีการบังคับใช้กฎหมายชารีอาและการเฆี่ยนประจานต่อหน้าสาธารณะ เพื่อให้มั่นใจว่าสังคมจะเป็นระเบียบเรียบร้อยและปลอดภัย ขณะที่มาเลเซียก็มีการเฆี่ยนตีผู้กระทำผิด แต่ไม่ได้นำมาประจานต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้

เมื่อปี 2007 เจ้หน้าที่ด้านการท่องเที่ยวของอาเจะห์เคยพยายามเสนอให้อาเจะห์ใช้โอกาสที่มีการเฆี่ยนประจานตามกฎหมายชารีอามาเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้ชาวมุสลิมประพฤติตัวดีขึ้น และยังเป็นจุดขายที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวอีกด้วย และเชื่อว่า นักท่องเที่ยวไม่น่าจะรู้สึกกลัวอะไร เพราะถือเป็นการปกป้องความจริงและความยุติธรรม

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog