เจ้าหน้าที่สถานทูตอินโดนีเซียประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ เปิดเผยหลังจากเข้าพูดคุยกับสิติ ไอสยาห์ หญิงชาวอินโดนีเซียที่ถูกจับฐานเกี่ยวพันกับการสังหารนายคิมจองนัม ว่าเธอถูกล่อลวงให้เข้าร่วมแผนสังหารดังกล่าว โดยได้รับค่าจ้างเพียง 400 ริงกิต หรือประมาณ 3,000 บาท เพื่อป้าย "เบเบี้ออยล์" ไปที่หน้าของนายคิมจองนัม ซึ่งเธอได้รับคำอธิบายว่าแผนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการกลั่นแกล้งในรายการเรียลลิตี
ผลการชันสูตรพบว่านายคิมเสียชีวิตจากการถูกป้ายสารพิษทำลายระบบประสาท VX ที่ใบหน้า โดยสารดังกล่าวมีลักษณะเป็นน้ำมัน ไร้สี กลิ่น รส และเป็นอาวุธเคมีที่สหประชาชาติจัดอยู่ในประเภทอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง หรือ WMD ขณะที่หญิงชาวเวียดนามอีกคนที่ถูกจับได้ในเวลาเดียวกับไอสยาห์ ก็ให้การในทำนองเดียวกันว่าเธอเข้าใจว่าได้เข้าร่วมในรายการเรียลลิตี และไม่รู้เห็นในแผนสังหารนายคิม
อย่างไรก็ตาม มีภาพวงจรปิดยืนยันว่าหญิงสาวทั้ง 2 คนรีบเข้าห้องน้ำไปล้างมือหลังเกิดเหตุ หมายความว่าพวกเธออาจจะรู้ว่าน้ำมันที่ใช้เป็นสารพิษ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังมองว่าปฏิบัติการดังกล่าวต้องผ่านการฝึกฝนหลายครั้ง เพื่อให้พิษถูกตัวนายคิม และไม่ถูกผู้ป้ายพิษจนเป็นอันตรายเสียเอง จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าผู้บงการสังหารจะจ้างมือสมัครเล่นให้มาทำงานนี้โดยที่ไม่ผ่านการฝึกปรือใดๆมาก่อนเลย
ด้านทางการมาเลเซียยืนยันว่าสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์แห่งที่ 2 ปลอดภัยแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ระดมกำลังทำความสะอาดพื้นและบริเวณรอบสนามบิน รวมถึงให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบสารพิษตกค้าง หลังจากพบว่าการลอบสังหารนายคิมจองนัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ มีการใช้สารพิษทำลายประสาท VX ซึ่งเป็นอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูง ทำให้แม้อาจมีสารพิษตกค้างในสนามบินเพียงเล็กน้อย ก็อาจเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไปได้
สารพิษ VX เป็นสารพิษที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ร้ายแรงกว่ายาฆ่าแมลงนับพันเท่า ปริมาณเพียง 1 หยดสามารถฆ่าคนได้ สารดังกล่าวไม่มีสี กลิ่น รส ซึมผ่านผิวหนัง และทำให้เสียชีวิตได้ภายใน 10 นาทีหลังถูกพิษ
