'ดีเอสไอ' บุกทลายร้านค้าและโกดังเก็บสินค้าประเภทรองเท้า กระเป๋า เข็มขัด ปลอมเครื่องหมายการค้ายี่ห้อดัง ย่านนวนคร มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

สำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา นำโดย พ.อ.พินิจ ตั้งสกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมด้วยนายธงชัย สมบัติจิราภรณ์ รองผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา, ร.ต.อ.พลสัณห์ เทิดสงวน ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 1, พ.ต.ท.ธนวัฒน์ วงศ์อนันต์ชัย ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 2, พ.ต.ท. นิรุติ พัฒนรัฐ ผู้อำนวยการส่วนคดีทรัพย์สินทางปัญญา 3, พ.ต.ท.ยุทธนา ตั้งกอบลาภ ผู้อำนวยการส่วนอำนวยการคดี, เจ้าหน้าที่จากสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญาและสำนักปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเข้าตรวจค้นโกดังและร้านค้าจำนวน 9 จุดในตลาดโรงเกลือมาเก็ต ย่านนวนคร ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นรองเท้าละเมิดเครื่องหมายการค้าNike, Adidas, Onitsuka Tiger, Vans, fitflopฯลฯ และกระเป๋า เข็มขัด ละเมิดเครื่องหมายการค้าGucci, Chanel, Louis Vuitton เป็นจำนวนมากกว่า 35,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 30ล้านบาท

ลักษณะภายในบริเวณตลาดดังกล่าว จะมีรูปแบบในการกระทำความผิดคล้ายกับที่ตลาดโรงเกลือ 
อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ผู้ค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนจากประเทศเพื่อนบ้าน มีการนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และมีการกระจายสินค้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครและพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ ทั้งในลักษณะการวางจำหน่ายหน้าร้าน และการจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยการหลอกลวงผู้บริโภคว่าเป็นสินค้าของแท้ โดยเก็บสินค้าไว้ในห้องลับหลังร้านค้าและโกดังภายในบริเวณที่เกิดเหตุ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงมีความจำเป็นต้องเข้าตรวจค้นจับกุมในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันมิให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงและเป็นการปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดเฉียบขาดต่อไป โดยในการปฏิบัติการในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชาจำนวน 4 คนส่วนผู้ต้องหาและผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ   โดยทางพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้ดำเนินการติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากการจับกุมในครั้งนี้แล้ว กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้ดำเนินการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาโดยตลอด ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากคณะอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีนโยบายปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาได้จัดทำแผนปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และได้มอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นหน่วยประสานการปฏิบัติซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขานรับนโยบายตามแผนและดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญารายใหญ่อย่างต่อเนื่อง 

โดยในห้วงตั้งแต่เดือนกันยายน2559 เป็นต้นมาได้ตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 12 คดี และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 48,000,000 บาท และเมื่อรวมกับคดีดังกล่าวข้างต้นจนถึงปัจจุบัน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินการตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้นรวม 21 คดี และมีมูลค่าความเสียหายกว่า 78,000,000 บาท