ทางการออสเตรเลียเปิดเผยผลการสอบสวนกรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กโดยบาทหลวงคาธอลิก พบว่ามีเหยื่อทั่วประเทศกว่า 4,000 คน และร้อยละ 7 ของบาทหลวงเคยละเมิดทางเพศเด็ก
คณะกรรมาธิการสอบสวนการล่วงละเมิดทางเพศเด็กของออสเตรเลียเปิดเผยผลการสอบสวนและเก็บข้อมูลที่ใช้เวลารวบรวมนานถึงเกือบ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2013 พบว่าตั้งแต่ปี 1950-2015 มีบาทหลวงในคริสตจักรโรมันคาธอลิกในออสเตรเลียถึงร้อยละ 7 ที่ถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และมีเหยื่อถึง 4,444 คนที่เข้าไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการ โดยพบว่าเหยื่อส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 10 ปีสำหรับเด็กหญิง และ 11 ปีสำหรับเด็กชายขณะที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
นอกจากนี้ บาทหลวงในบางนิกายยังถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศมากกว่านิกายอื่นๆ เช่นนิกายเซนต์จอห์นออฟก็อดบราเธอร์ส กว่าร้อยละ 40 ของบาทหลวงถูกกล่าวหาด้วยข้อหานี้ ขณะที่เหยื่อเกือบทั้งหมดไม่เคยได้รับกราชดเชยหรือคำขอโทษ มีการจงใจปกปิดหลักฐานโดยการลงโทษหรือข่มขู่เหยื่อ ส่วนบาทหลวงที่กระทำผิดจะถูกย้ายไปอยู่เมืองอื่นซึ่งประชาชนไม่รูประวัติของ บาทหลวงคนดังกล่าว
ประธานสภาตรวจสอบข้อเท็จจริงและการเยียวยากรณีล่วงละเมิดทางเพศของคริสตจักรออสเตรเลีย ยอมรับกับคณะกรรมาธิการว่าข้อมูลดังกล่าวถือว่าน่าตกใจ และไม่มีข้อแก้ตัวใดๆในความผิดอันเลวร้ายที่ดำเนินมานานหลายสิบปีนี้ โดยเหตุสำคัญที่ทำให้การละเมิดทางเพศเด็กโดยบาทหลวงแพร่หลาย เกิดจากการที่บาทหลวงมีสถานะสูงได้รับการยอมรับในสังคม จึงไม่มีการตรวจสอบหรือตั้งคำถาม ส่วนบาทหลวงระดับสูงก็ปกป้องผู้กระทำผิดเพราะต้องการปกป้องหน้าตาของคริสตจักรมากกว่าปกป้องสิทธิของเด็ก
กรณีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กโดยบาท หลวงในออสเตรเลีย ตอกย้ำว่าพฤติกรรมดังกล่าวในคริสตจักรเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ก่อนหน้านี้มีการสอบสวนและเปิดโปงพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศของบาทหลวงใน สหรัฐฯ อิสราเอล เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และบราซิลมาแล้ว ทำให้วาติกันต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีดังกล่าวเมื่อปี 2013 และโป๊ปฟรานซิสก็ทรงตั้งตุลาการคริสตจักรขึ้นเพื่อลงโทษบิชอปที่ล้มเหลวในการปกป้องเด็กจากบาทหลวงที่มีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศ