ท่ามกลางความกังขามากมายเกี่ยวกับแนวโน้มเรื่องการค้าเสรีและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ ผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯต่างพยายามสร้างความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อระบบการค้าระหว่างประเทศและโลกาภิวัตน์
ผู้นำทั่วโลกเดินทางเข้าร่วมการประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ท่ามกลางความกังวลตต่อสถานการณ์โลกที่ดูจะย่ำแย่ลงหลังความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกแถลงการณ์ล่าสุดกรณี Brexit ว่าจะออกจากอียูอย่างเด็ดขาด ไม่คงอยู่อย่างครึ่งๆกลางๆ แต่จะยังคงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับยุโรป ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน
นายจอห์น แครี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวกับผู้นำจากทั่วโลกในการประชุมดาวอสว่า แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่าขณะนี้ความสัมพันธ์ของทั่วโลกกำลังสั่นคลอนและแตกแยก แต่ขอให้มั่นใจว่าความพยายามกว่า 70 ปีของความร่วมมือทางเศรษฐกิจโลกที่ดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่ได้จบลงและจะไม่มีวันจบลงอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ อีกหนึ่งผู้นำชาติมหาอำนาจอย่างนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ยังได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกันอีกด้วยว่าระบบเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันสร้างปัญหาใหม่ๆขึ้นมากมายให้กับหลายประเทศทั่วโลกแต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่จะต้องเหมารวมว่าเศรษฐกิจทั่วโลกนั้นเลวร้ายไปทั้งหมด นอกจากนี้นายสียังได้ยืนยันว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยึดมั่นในการร่วมมือกันพัฒนาการลงทุนและการค้าเสรีของนานาชาติ ไม่ใช่การผลักดันนโยบายกีดกันทางการค้า หรือนโยบายประชานิยมของชาติตะวันตก