ไม่พบผลการค้นหา
"พิชัย" ห่วง ภาพลักษณ์รัฐบาลทำเศรษฐกิจยิ่งทรุด สื่อใหญ่ต่างประเทศรุมวิจารณ์ทางลบ แนะเลือก ครม. ต้องไม่ยี้ ประวัติดีและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่สื่อใหญ่ต่างประเทศหลายสำนักได้ให้ความเห็นในทางลบอย่างมาก เช่น นิกเคอิ รีวิว ของญี่ปุ่น วิจารณ์ว่าการที่พลเอกประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้งทำประเทศไทยถอยหลังกลับไป 30 ปี และ ดิ อิโคโนมิสต์ ของอังกฤษ วิจารณ์ว่า พลเอกประยุทธ์ บิดเบือนกฎหมายเพื่อสืบทอดอำนาจ และล่าสุดวอชิงตันโพสต์ สื่อทรงอิทธิพลที่สุดของสหรัฐถึงกับแนะให้รัฐบาลสหรัฐอย่าได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบกับรัฐบาลไทย โดยระบุชัดเจนว่าเป็น “ประชาธิปไตยจอมปลอม”

ทั้งนี้ การที่สื่อใหญ่ระดับโลกให้ความเห็นเช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลและความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศอย่างแน่นอน ตรงข้ามกับที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พยายามแก้ต่างเพื่อปลอบใจรัฐบาล โดยจะทำให้ถึงแม้มีการเลือกตั้งแล้ว แต่เนื่องจากมีความผิดปกติในการเลือกตั้งจำนวนมาก อีกทั้งรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย การฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยจะทำได้ยากมาก หรือ แทบทำไม่ได้เลย เพราะจะไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้ เศรษฐกิจไทยก็จะยังคงย่ำแย่ลงต่อไป ประชาชนจะยิ่งลำบากมากขึ้น โดยรัฐบาลจะพยายามโทษไปที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งไม่น่าจะใช่เหตุผลทั้งหมดเพราะประเทศเวียดนามกลับได้ประโยชน์ ในขณะที่ประเทศไทยกลับแย่ลงเรื่อยๆ อีกทั้งช่วงเศรษฐกิจโลกดี เศรษฐกิจไทยก็แย่มาตลอด 5 ปี

นอกจากนี้ การคัดเลือกบุคคลที่มาดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในขั้นตอนต่อไปก็อยากให้เลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง และมีประวัติการทำงานที่โปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ ต้องไม่ยี้ เพราะหากเลือกคนที่มีประวัติยี้ หรือ มีผลประโยชน์ทับซ้อน จะยิ่งทำให้ความมั่นใจลดต่ำลงไปอีก และประชาชนจะยิ่งไม่ยอมรับ หลายชื่อที่ปรากฏในหน้าสื่อได้เริ่มสร้างความกังวลให้กับประชาชนจำนวนมาก เพราะ 5 ปีที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์มีอำนาจเต็มยังไม่สามารถทำเศรษฐกิจให้ดีได้ ประชาชนลำบากกันอย่างมาก มาตอนนี้หลังการเลือกตั้งแล้ว ต้องมาแบ่งอำนาจให้กับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจมีรัฐมนตรีที่มีประวัติย้อนหลังที่ยี้ แล้วจะไปทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นจึงอยากให้คัดบุคคลให้เหมาะสมและดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยก็จะไม่ทำให้เศรษฐกิจทรุดหนักมากลงไปอีก