กทม. เร่งผลักดันใช้ประโยชน์จากสนาม บางกอก อารีน่า หลังต้องจ่ายค่าดูแลปีละ 2.4 ล้าน
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจ ศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่า หนองจอก ซึ่งเปิดใช้ตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา แต่มีปัญหาคือ อยู่ระหว่างการส่งมอบพัสดุ ตามข้อบัญญัติพัสดุระหว่างสำนักการโยธาและสำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เนื่องจากมีพัสดุกว่า 1,000 ชิ้น และต้องจัดทำเลขพัสดุทุกชิ้นให้อยู่ในบัญชี รวมถึงจัดแผนการใช้ประโยชน์ ระเบียบการใช้ และแผนประชาสัมพันธ์ โดยคาดว่าจะส่งมอบแล้วเสร็จก่อนวันที่ 15 มกราคม 2560 นี้
“ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากทม.ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า โดยในปี 2559 มีการจัดแข่งฟุตซอลตลอดปีเพียง 12 แมตซ์ "
- นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
โดยรองผู้ว่ากทม.เผยว่า “ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากทม.ใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า โดยในปี 2559 มีการจัดแข่งฟุตซอลตลอดปีเพียง 12 แมตซ์เท่านั้น อย่างไรก็ตามศูนย์กีฬาบางกอกอารีน่าก็มีศักยภาพในการจัดแข่งกีฬาอื่น ทั้งปิงปอง เทควันโด แบดมินตัน วอลเล่ย์บอล รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ยกเว้น คอนเสิร์ต และที่ผ่านมากทม.ต้องเสียค่าบำรุงรักษาสถานที่แห่งนี้เดือนละ 200,000 บาท เฉลี่ยปีละ 2,400,000 บาท ต่อปี หากบุคคลภายนอกต้องการจัดกิจกรรม โดยมีกทม.เป็นเจ้าภาพร่วมทางเราต้องการให้จัดฟรี แต่หากเป็นกิจกรรมขององค์นั้นๆ จะมีค่าใช้จ่ายก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบของกิจกรรมที่จะจัด”
สำหรับศูนย์กีฬาดังกล่าว เป็นสนามกีฬาในร่ม มีความกว้าง 116 เมตร ความยาว 132 เมตร อัฒจันทร์ 5 ระดับชั้น สูง 25 เมตร (หลังคาสูง 34 เมตร) มีความจุผู้ชม 12,000 คน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 50 ไร่ ถนนเชื่อมสัมพันธ์ เขตหนองจอก
แรกเริ่มสนามแห่งนี้ก่อสร้างเพื่อที่จะรองรับการแข่งขัน "ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012" ซึ่งไทยได้เป็นเจ้าภาพ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยื่นเรื่องให้ รัฐบาลในยุคที่ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี อนุมัติจัดการสร้างสนามแห่งนี้ ด้วยงบประมาณ 1,239 ล้านบาท โดยกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นผู้ออกแบบ และ ลงนามในสัญญาจ้างบริษัท อีเอ็มซี จำกัด(มหาชน) เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555 โดยกำหนดให้สนามแห่งนี้มีชื่อว่า บางกอกฟุตซอลอารีน่า (Bangkok Futsal Arena)
ก่อนจะมีพิธีเปิดสนามในวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ทว่า ทางฟีฟ่าได้เข้าตรวจสนามแล้วไม่ผ่านมาตราฐานจึงไม่อนุญาตให้ทำการแข่งขันได้ ทำให้ฟุตซอลชิงแชมป์โลกต้องไปทำการแข่งขันที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก แทน
ต่อมา กรุงเทพมหานครจัดให้มีกิจกรรมเพื่อเปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการอีกครั้ง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนปีเดียวกัน โดยมีการแสดงคอนเสิร์ต และจัดแข่งขันฟุตซอล ชิงถ้วยรางวัลหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “บางกอก อารีน่า” แต่จากนั้นมากก็แทบไม่มีการใช่สนามแห่งนี้จัดการแข่งขันอะไรเลย จนล่าสุด มีการจัดแข่งขันฟุตซอลอาเซียน 2016 เมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา
