กระทรวงคมนาคม ลงนามเชื่อมต่อระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ ร่วมกันระหว่างบัตร Easy Pass และบัตร M-Pass โดยพร้อมเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้หลังเที่ยงคืนของวันนี้ (31 ต.ค.)
การลงนามความร่วมมือเชื่อมต่อระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ หรือ ETCs (อีทีซี) ร่วมกันระหว่างบัตร Easy Pass ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และบัตร M-Pass ของกรมทางหลวง เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าผ่านทาง และอำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้บริการทางพิเศษ ทั้ง 7 เส้นทาง
ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร , ทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ , ทางพิเศษศรีรัช , ทางพิเศษกาญจนาภิเษก สายบางพลี-สุขสวัสดิ์ , ทางพิเศษบูรพาวิถี หรือทางด่วนบางนา-ชลบุรี , ทางพิเศษอุดรรัถยา หรือทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด และทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
รวมทั้งมอเตอร์เวย์ 2 เส้นทาง ได้แก่ หมายเลข 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี และหมายเลข 9 บางปะอิน-บางพลี โดยผู้ใช้บริการ จะสามารถชำระค่าบริการได้โดยใช้บัตรเพียงบัตรเดียวผ่านทั้งช่องเก็บเงินบนระบบ Easy Pass และ M-Pass
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุ การลงนามเชื่อมต่อระบบทางด่วนครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการนำเทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมโยงทุกระบบการเดินทางตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าจำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้นจากเดิม ระบบ Easy Pass มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน และ M-Pass หลักแสนคน ช่วยลดปัญหาการจราจรบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทางได้ พร้อมเปิดใช้งานเป็นทางการหลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ตุลาคมนี้(59)
ส่วนผู้ที่มีบัตร Easy Pass และ M-Pass อยู่เดิม สามารถใช้งานบัตรที่มีอยู่ได้ทันที หากมีทั้ง 2 บัตร แนะนำให้ใช้งานเพียงบัตรเดียว
สำหรับความคืบหน้าการใช้ E-ticket หรือตั๋วร่วมเพื่อเดินทางเชื่อมต่อในระบบขนส่งสาธารณะ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี (PPP) ในการจัดตั้งคณะกรรมการคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ คาดว่าจะสามารถเปิดให้ประชาชนใช้บริการได้ไม่เกินกลางปีหน้า(60) จะทำให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้าบีทีเอส ก่อนจะพัฒนาระบบไปสู่ระบบรถเมล์และท่าเรือ ต่อไป