ไม่พบผลการค้นหา
ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทางตอนเหนือของเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้กรมชลประทาน ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พื้นที่ริมตลิ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องทางตอนเหนือของเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ทำให้กรมชลประทาน ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พื้นที่ริมตลิ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

นายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา บอกว่า ขณะนี้เขื่อนพระรามหก พยายามผันน้ำออกไปทางคลองระพีพัฒน์ในปริมาณมาก เนื่องจากมีฝนตกใน อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ไหลลงแม่น้ำลพบุรี มาสมทบกับแม่น้ำป่าสัก 

ทำให้การระบายท้ายเขื่อนพระรามหก ขยับเป็น 622 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากเดิมที่ควบคุมไว้ไม่ให้เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และแนวโน้มอาจเพิ่มเป็น 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งความจุที่อำเภอท่าเรือ จะรับได้คือ 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงขอแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนพระรามหก ให้เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งในที่ลุ่มต่ำ ในเขต อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง และ อ.พระนครศรีอยุธยา

รวมทั้ง ยังห่วงลุ่มน้ำป่าสัก เนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขณะนี้มีน้ำอยู่ ร้อยละ 94 ของความจุอ่าง และยังคงมีน้ำไหลเข้าอ่างจากฝนที่ตกหนัก ทำให้ต้องเร่งระบายออก เพื่อให้เขื่อนมีช่องว่างในการหน่วงน้ำ ไม่ให้ไหลเข้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยามากกว่าปกติ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า ฝนจะมีต่อเนื่องจรถึงปลายเดือนตุลาคมนี้ 

​นายเอกศิษฐ์ ศักดิ์ดีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนเจ้าพระยา บอกว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีทั้งน้ำเหนือ และฝนที่ตกในพื้นที่ 

ขณะนี้ เขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,998 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นไปตามแผนของกรมชลประทาน แต่ถ้าฝนตกลงมาเพิ่มอีก ก็จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้รับผลกระทบจากน้ำที่ล้นตลิ่ง

ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ  นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจความพร้อมเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำรอระบายจากปริมาณน้ำฝน บริเวณปากซอยฉิมพลี 28 ถนนฉิมพลี เขตตลิ่งชัน เนื่องจากถนนเส้นนี้ต่ำกว่าถนนหลัก(ถนนบรมราชชนนี) และยังเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ

กทม.จึงเสริมระดับถนนขึ้น 30 เซนติเมตร เพื่อลดปัญหาสภาพถนน เพิ่มโครงข่ายระบบท่อน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำ  นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า 3 ตัว ริมคลองคูบัว ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ซอย 43 เพื่อใช้ในการระบายน้ำเพิ่มเติมอีกจุด และยังนำกระสอบทรายมาเสริมตามแนวคลอง และท่าเรือ 

ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า บริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีปริมาณฝนลดลง  ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง  ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 และมีฝนตกหนักบางแห่ง 

สำหรับ พายุ 'แอรี' (AERE) ขณะนี้มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ เลียบชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปฮ่องกง มาเก๊า และเกาะไหหลำ ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางไว้ด้วย  ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 8-10 ตุลาคม พายุลูกนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog