ธนาคารออมสิน แจ้งความดำเนินคดีคนร้ายติดตั้งมัลแวร์ เจาะระบบตู้เอทีเอ็มของธนาคาร สูญเงินกว่า 12 ล้านบาท เร่งแก้ระบบให้เสร็จใน 3 วัน ล่าสุดปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มที่มีปัญหา 4,000 ตู้
กรณีกลุ่มมิจฉาชีพเป็นชาวยุโรปตะวันออก แฮกระบบตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน มูลค่าความเสียรวม 12,291,000 บาท เมื่อวันที่ 1-8 สิงหาคมที่ผ่านมา(59) นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ยอมรับเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการโจรกรรมเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม โดยใช้โปรแกรมมัลแวร์ เข้าไปแฮกระบบตู้เอทีเอ็ม และใช้บัตรกดเงินออกไป ครั้งละ 40,000 บาท โดยเลือกกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มยี่ห้อ NCR ที่ติดตั้งในจุดเปลี่ยว และตู้แบบสแตนด์อโลน
การโจรกรรมนี้ ทำให้ธนาคารไม่รู้ความเคลื่อนไหวของเงินที่หายไป เพราะขโมยเงินจากกล่องเงินในเครื่องเอทีเอ็ม ไม่ใช่เงินหายจากบัญชีลูกค้า ขณะนี้ได้ปิดให้บริการตู้เอทีเอ็มยี่ห้อดังกล่าว 4,000 ตู้ จากทั้งระบบมีธนาคารพาณิชย์ใช้ตู้ NCR รวม 10,000 ตู้ โดยประชาชนยังใช้บัตรเอทีเอ็มกดเงินสดได้ที่ตู้ต่างธนาคารและข้ามเขต ไม่คิดค่าธรรมเนียม คาดว่าจะแก้ปัญหาแล้วเสร็จใน 3 วัน
ตู้เอทีเอ็มที่ถูกขโมยเงิน อยู่ใน 6 จังหวัด ในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร รวม 21 ตู้ ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ปัญหากับบริษัทผู้ผลิตตู้เอทีเอ็มประเทศสก็อตแลนด์ ให้ชดเชยความเสียหาย ส่วนธนาคารทำประกันภัยไว้แล้ว
ธปท.กำชับทุกธนาคารตรวจสอบตู้เอทีเอ็ม
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ทราบกรณีดังกล่าวแล้ว พร้อมกำชับธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบระบบกดเงินตู้เอทีเอ็ม ยืนยันมีธนาคารเดียวที่เสียหาย ทั้งนี้ ได้ออกประกาศให้สถาบันการเงิน เสนอระบบการพิสูจน์ตัวตน เช่น การแสกนลายนิ้วมือและม่านตา เพื่อพัฒนาระบบให้ทันสมัยมากขึ้น ส่วนประชาชนขอให้รักษาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น Username และ Password เป็นความลับ
ควรแก้ไขระบบความปลอดภัย
ด้านตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ระบุกรณีนี้ เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และข้อหาลักทรัพย์ แม้เงินที่ถูกโจรกรรมไปจะเป็นส่วนธนาคาร ไม่เกี่ยวกับผู้ฝากเงิน แต่สร้างผลกระทบด้านความเชื่อมั่นต่อผู้ฝากเงิน ธนาคารควรต้องแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ เบื้องต้น แนะให้เปลี่ยนตู้เอทีเอ็มและบัตรกดเงิน เป็นแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งมีความปลอดภัยสูงสุดในขณะนี้
ทั้งนี้ ธนาคารออมสิน ได้แจ้งความดำเนินคดีกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวกับ ปอท. สถานีตำรวจท้องที่ และ สบ.10 รวมทั้งจะตรวจสอบความเชื่อมโยงกับการก่อเหตุในไต้หวันและญี่ปุ่นที่มีลักษณะคล้ายกันด้วย