ไม่พบผลการค้นหา
ETFs ถือทองเกือบเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ ท่ามกลางไวรัสโคโรนา ด้านนักวิเคราะห์ ยังมองราคาทองในไทยไม่พุ่งถึงบาทละ 25,000 บาท

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่านักลงทุนทั่วโลกหันไปเทเงินเข้ากองทุนรวมดัชนีที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ หรือ (Exchange Traded Fund: ETF) ที่ถือทองเป็นหลัก ท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยกระแสเงินทุนไหลเข้าดังกล่าว ทำให้ราคาซื้อขายเกือบทะลุจุดสูงสุดที่ทำได้ในปี 2556 

ราคาทองที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้เป็นผลมาจากความเสี่ยงทีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะบั่นทอนเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนเลือกจะปิดความเสี่ยงและมองหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น 

จำนวนทองที่กองทุนรวม ETFs ถือในปัจจุบันเพิ่มสูงขึ้นไปอยู่ที่ 2,561.2 ตัน ตามข้อมูล ณ วันอังคาร 28 ม.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นจำนวนที่มากที่สุดตั้งแต่ปี 2556 ตามข้อมูลจากบลูมเบิร์ก ขณะที่ตัวเลขสูงสุดที่ ETFs เคยถือทองเอาไว้ คือ 2,572.8 ตัน เมื่อธันวาคม 2555

ด้านราคาซื้อขายไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก อยู่ที่ 1,567.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ ณ วันพุธ 29 ม.ค. คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ในเดือนมกราคม หลังจากที่ราคาทองพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 18 ในปีก่อนหน้า

ด้าน จิตติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุนที่ถือทองอยู่เป็นเรื่องปกติในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยง

อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทย จิตติพล มองว่า ราคาทองอาจจะยังไม่ขยับขึ้นไปถึง 25,000 บาท ต่อทอง 1 บาทไทย เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มองว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะกินระยะเวลานานมากนัก

อ้างอิง; Bloomberg, ST