ไม่พบผลการค้นหา
'ผู้ว่าธปท.' โพสต์เฟซบุ๊กแจง พ.ร.ก.ให้อำนาจ ธปท. ออกซอฟต์โลน 5 แสนล้านบาท - ตั้งกองทุนรักษาสภาพคล่องดูแลตลาดตราสารหนี้ 4 แสนล้าน ให้อำนาจ ธปท. บริหารจัดการสภาพคล่องให้ตรงจุด วอนอย่าใช้คำว่า 'พ.ร.ก.กู้เงิน' ให้สาธารณชนเข้าใจผิด

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.ฉ โพสต์เฟซบุ๊กบัญชี 'Veerathai Santiprabhob' ข้อความว่า "ได้ยินหลายท่านอภิปรายในสภาฯ ว่า รัฐบาลเสนอ พ.ร.ก. กู้เงิน 3 ฉบับ รวม 1.9 ล้านล้านบาท จึงขอเรียนยืนยันอีกครั้งนะครับว่า พ.ร.ก. ที่ ธปท. เสนอ "ไม่" ควรเรียกว่าเป็น พ.ร.ก. กู้เงิน เพราะหัวใจของ พ.ร.ก. ทั้งสองฉบับคือการให้อำนาจ ธปท. เข้าไปบริหารจัดการสภาพคล่องได้ตรงจุด

เมื่อครบเวลาสองปี เงินที่ ธปท. ปล่อย soft loans ผ่านสถาบันการเงินไปให้ SMEs สถาบันการเงินก็ต้องเอากลับมาคืน ธปท. 

ส่วนเงินที่ ธปท. จะลงทุน ผ่านกองทุน BSF (กองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้) เป็นการให้ bridge financing (เงินกู้ชั่วคราว) ชั่วคราว เมื่อครบกำหนดก็เอาเงินกลับมาคืน ธปท. (ธปท. ถึงต้องเน้นเรื่องคุณภาพของตราสารที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย)

ทั้งกลไกของ soft loans และกองทุน BSF ไม่ใช่การกู้เงิน 900,000 ล้านบาทมาใช้จ่าย หรืออีกนัยหนึ่ง ไม่ได้สร้างภาระการคลัง 900,000 ล้านบาท หรือไม่ได้สร้างภาระภาษี 900,000 ล้านบาทให้ลูกหลานเหมือนกับที่หลายท่านกังวล

ทั้งสองกลไกอาจจะสร้างภาระการคลังในอนาคตได้บ้าง ถ้าสินเชื่อ soft loans ที่ปล่อยให้ SMEs จำนวนมากเกิดกลายเป็นหนี้เสีย หรือตราสารหนี้ที่กองทุน BSF เข้าไปลงทุนไม่ได้รับชำระหนี้คืน ซึ่งตาม พ.ร.ก. แล้วรัฐบาลจะชดเชยความเสียหายให้เพียงบางส่วนเท่านั้น  

ธปท. ตระหนักดีว่าทั้งสองกลไกที่ ธปท. เสนอไม่พึงสร้างภาระการคลังให้กับคนไทยในอนาคต จึงต้องมีเงื่อนไขด้านคุณภาพอย่างรัดกุมทั้งการปล่อยสินเชื่อผ่าน soft loans และการลงทุนผ่านกองทุน BSF" 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :