ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯเผย บอกจะปรับครม ภายในสิ้นเดือน มี.ค. เผยคุยทุกพรรคแล้ว โควตายังเท่าเดิม ยังไม่มีพรรคร่วมขอเปลี้ยนตัว ยอมรับเริ่มขัดแย้งเยอะ เมินพรรคเล็กต่อรองขอ 1 เก้าอี้ โยน พรรคใหญ่คุยกันเอง เมินม็อบนัดชุมนุม 6 มี.ค. ชี้ ศก.ดีขึ้นจากมาตรการรัฐ ทำยอดจองโรงแรมพุ่ง

วันที่ 2 มี.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)“ประยุทธ์ 2/3” ว่าจะปรับเร็วๆนี้ ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลหมดแล้ว สุดท้าย ตนต้องตัดสินใจ และ ต้องทำโดยเร็วที่สุด และวันนี้ที่ประชุม ครม. ได้แต่งตั้ง รักษาราชการแทนตำแหน่งที่ว่าง ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน เป็นการสานต่องานเดิม จนกว่าจะมีรัฐมนตรีคนใหม่

ถามย้ำว่า จะปรับ ครม. ช่วงสิ้นเดือนมี.ค. หรือ ต้นเดือน เม.ย. นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับมา “แล้วไง ก็รอสิ จะปลายมี.ค. หรือต้น เม.ย. ก็จะทำให้เร็วที่สุด ทำไมต้องแปลคำพูดเป็นอย่างอื่น มันจบตั้งแต่ความหมายตั้งแต่ตรงนี้แล้ว ทำไมต้องให้อภิปรายซ้ำ ไม่เข้าใจ”

ส่วนจะปรับเฉพาะ3 ตำแหน่ง หรือ ตำแหน่งอื่นด้วย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังคิดอยู่ และ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ทุกพรรคยังเหมือนเดิม รวมถึงโควตาตำแหน่งก็ยังเท่าเดิม หากมีการปรับคงขอกันมาเอง พร้อมย้ำว่า เบื้องต้นที่คุยกับหัวหน้าพรรคยังไม่มีพรรคไหน ต้องการปรับเปลี่ยน ขณะนี้มันขัดแย้งกันเยอะอยู่แล้วขออย่าให้มีเลย คิดว่า สามารถ ควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติที่ดี ในการบริหารการเมือง และ บริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้น ต้องแยก บริหาร ตุลาการ และ นิติบัญญัติ ออกจากกัน 

รวมกรณีที่พรรคเล็กรวมตัวแถลงข่าว ต้องการโควตารัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ให้แถลงไป เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคขนาดใหญ่ ไปหารือกันเอง ว่าจะจัดสรรอย่างไร 

ทั้งนี้ หลังให้สัมภาษณ์ นายกรัฐมนตรีบ่นด้วยว่า “นี่ไม่ได้โมโห อะไร ฉันไม่ได้เครียด เดี๋ยวก็เอาไปเขียนว่า ฉันเครียด แต่ที่เครียดก็เพราะคำถามของผู้สื่อข่าว” 

นายกฯ เมินม็อบชุมนุม 6 มี.ค.

พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุภายหลังเป็นประธานการประชุม ครม. ถึงกรณีกลุ่ม REDEm นัดหมายชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. มีอีกกลุ่มเห็นต่างก็นัดหมายชุมนุมเช่นกัน และจะต้องมีการตรวจสอบความเชื่อมโยงกลุ่ม REDEM ที่อ้างว่าไม่มีแกนนำ เพิ่มเติมหรือไม่ โดยปฏิเสธตอบคำถามโดยกล่าวเพียงว่า เรื่องการชุมนุมก็ให้เป็นเรื่องของการชุมนุม ซึ่งไม่ขอตอบ เพราะทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไร

โชว์ ศก.ในประเทศดีขึ้น ยอดจองโรมแรมพุ่งช่วงหยุดยาว

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวช่วงหนึ่งในการแถลงข่าวว่า วันนี้เรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศหลายอย่างดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นมาตรการของรัฐ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตัวเลขการสั่งจองโรงแรมต่างๆ สูงขึ้นรวมทั้งมีการใช้มาตรการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งจะมีโครงการทยอยออกมาตามลำดับ ดังนันวันนี้เพียงแต่ขอความร่วมมือและความเข้าใจกับทุกท่านประชาชนทุกคน อันเป็นที่รักยิ่งของตน ในการช่วยกันทำให้ประเทศชาติเราเข้มแข็ง อย่ามุ่งหมายกันแต่ทำร้ายกัน เพราะไม่ถูกต้อง

นายกฯ กำชับทุกกระทรวงโปร่งใส

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำในการประชุม ครม. ว่าตนได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานปฏิบัติภารกิจทุกกิจกรรม และทุกโครงการ โดยอาศัยพื้นฐานธรรมาภิบาลเป็นแนวทาง และทุกอย่างต้องทำด้วยความโปร่งใสสุจริต ตรวจสอบได้และมีความรับผิดชอบ ตามหลักประชาธิปไตย ทั้งนโยบายขับเคลื่อนและผู้ปฏิบัติ ทุกคนจะต้องทำงาน ในเชิงรุก การกำหนดเป้าหมายชัดเจน ทุกโครงการจะต้องสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน โดยต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ในทุกมิติ 

นายกฯ ย้ำนำประเทศสงบ ไม่ต้องการขัดแย้ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะมีการปรับปรุงกฎหมายหลายแบบให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ได้มุ่งหมายที่จะใช้ในการลงโทษใครเพราะมีกฎหมายอาญาอยู่แล้วแต่จะทำอย่างไรให้การลงโทษต่างๆเกิดความเป็นธรรม และต้องทำให้คนไทยทุกคนรู้จักกฎหมาย ซึ่งอยากให้ทุกคนเข้าถึงกฎหมายเหล่านี้ หากใครไม่ได้ทำความผิดก็ไม่ต้องกลัวอะไร

โดยรัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ในการคุ้มครองสิทธิ์แม้จะมีการกระทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแต่อยู่ที่ว่าจะมีความสำนึกผิดหรือมีพฤติกรรมอย่างไรตนไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะหน้าที่รัฐบาลอยู่ฝ่ายบริหารจึงขออย่านำตนเองไปขัดแย้งกับใคร

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนที่อยู่อาศัยของพวกเรามายาวนาน ประกอบอาชีพมายาวนาน ดังนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น ตนดำรงตนในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารัฐบาลด้วยเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นในการนำพาประเทศชาติของเราให้ปลอดภัย สงบสุข มีเสถียรภาพ ทั้งในเรื่องของความมั่นคง เรื่องเศรษฐกิจ สังคมและเรื่องการเมืองอะไรต่างๆ ซึ่งวันนี้ได้พูดกับคณะรัฐมนตรีทั้งหมด พร้อมทั้งขอบคุณในความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ ที่ทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จในระดับเป็นที่น่าพอใจ

โดยนายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการค้าการลงทุนว่า ต้องเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบทุกประการ และต้องระมัดระวังการทุจริต พร้อมยืนยันว่าตนไม่ยอมรับเรื่องการทุจริต ตนในฐานะผู้สั่งนโยบายได้ย้ำเตือนเสมอว่า คนต้องทำงานด้วยความโปร่งใสและสุจริต  ซึ่งในวันที่ 23-25 มี.ค.นี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี จัดการสัมมนา เปิดเวทีแลกเปลี่ยน ต่อต้านการทุจริตและส่งเสริมความซื่อสัตย์ ซึ่งมีผู้นำจากทั่วโลกเข้าร่วม หลังการฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นี่คือเจตนารมณ์ของตน ในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาล แก้ไขเรื่องนี้ให้ได้โดยเร็ว ซึ่งมีอยู่ 2 เรื่องคือการเสนอผลประโยชน์ และการเรียกรับผลประโยชน์ หากมีหลักฐานจะต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกประการ ซึ่งวันนี้สำนักงาน กพร.ได้ร่วมมือกับโออีซีดี ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ให้ได้มากที่สุด โดยตนได้รับเป็น 1 ใน 14 ผู้นำที่ถูกเชิญให้กล่าวเปิดงานสัมมนาปีนี้ ซึ่งต้องทำให้ตัวเลขการประเมินของประเทศเพิ่มขึ้นให้ได้ ต้องไปดูว่าตัวเลขต่ำตรงไหนอย่างไร อะไรมีส่วนเกี่ยวข้อง ยอมรับว่าหลายอย่างมีหลายตัวแปร ซึ่งจะเป็นตัวบั่นทอนในการพัฒนาประเทศ และส่งผลทางอ้อมกับชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน คนต้องช่วยกันรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และประชาชนต้องร่วมมือไม่ปฏิบัติในสิ่งที่ผิดกฎหมาย อย่าให้เกิดการสมยอมกันเด็ดขาด 

ด้านการแจ้งข้อมูลการกระทำผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรีบอกว่า การแจ้งข้อมูลเข้ามามีจำนวนลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งเรื่องทั้งหมดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องบ่อนการพนันและการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทุกเรื่องตนได้สั่งการเน้นย้ำ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และดำเนินตามกฎหมายอย่างรัดกุม 

ส่วนเรื่องการขาดแคลนห้องเย็น เยือกแข็งที่มีการนำไปโจมตีอยู่ในขณะนี้ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ได้มีการพิจารณาในที่ประชุมอีอีซี โดยปัจจุบันห้องเย็นเยือกแข็งมีอยู่หลายแสนตัน ไม่ใช่ไม่มีเลย และกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอมาในหลายพื้นที่ โดยตนไม่อยากให้หลายคนเอาไปบิดเบือน ว่าขณะนี้ยังไม่มี จึงเป็นเพียงความคิดเห็นของเขา นำเรื่องเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำอยู่แล้ว พร้อมขอสื่อมวลชนให้ช่วยกันชี้แจงเพิ่มเติม 

ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทั้งมาตรการของรัฐและช่วงหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าตัวเลขยอดการสั่งจองโรงแรมต่างๆก็สูงขึ้น มีการใช้มาตรการตัวละครึ่ง และเที่ยวด้วยกัน ก็

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ยังมีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายในหลายๆแบบ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ได้มุ่งหมายที่จะลงโทษหรืออะไรใดๆทั้งสิ้น ส่วนเรื่องกฎหมายอาญาเขาก็มีอยู่แล้ว จะทำอย่างไรให้เกิดความเป็นธรรม และต้องทำให้คนไทยทุกคนรู้จักกฎหมาย ว่าจะใช้ประโยชน์จากกฎหมายตรงนี้ได้อย่างไร กฎหมายที่เป็นคุณก็มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งตนเพียงแต่จะขอร้องให้ทุกคนเข้าถึงกฎหมาย ในเมื่อไม่ทำความผิดอะไรก็ขออย่ากลัวกฎหมาย เพราะกฎหมายเป็นหลักของรัฐธรรมนูญ ถ้ากระทำความผิดแล้ว เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะเกิดความคุ้มครอง ถูกหรือผิดก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมสิ่งที่ได้กระทำลงไป ตนไม่สามารถก้าวล่วงได้ทั้งสิ้น หน้าที่รัฐบาลคือฝ่ายบริหาร อย่าเอาคนไปขัดแย้งกับใคร

ไม่แทรกแซงสรรหาคณะกรรมการ กสทช.

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุและกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่4) พ.ศ. 2564 ได้โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนตามกฎหมายใหม่ และดำเนินการสรรหาคณะกรรมการชุดใหม่ ใน15 วัน และหวังว่าจะได้คนที่ดีๆเข้ามาทำงาน และต้องผ่านจากสมาชิกวุฒิสภาหรือ สว.ให้ความเห็นชอบ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่เข้าไปแทรกแซงตรงนี้ 

นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการไปยังไปรษณีย์ไทยให้ดูเครื่องมือ เอกซเรย์การส่งพัสดุ เนื่องจากปัจจุบันมีการส่งพัสดุผิดกฎหมาย ซึ่งตนได้มอบแนวทางไปปฏิบัติแล้ว แต่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วๆ