ไม่พบผลการค้นหา
นายกฯ ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบไม่ให้เกิดการทุจริต ย้ำน้ำท่วมที่เกิดขึ้น เหตุฝนตกลงมาเกินปริมาณที่รองรับได้ พร้อมสั่งคมนาคมยื่นอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุดปมค่าโง่ทางด่วน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการตั้งวอร์รูมแก้น้ำท่วมรวมถึงเหตุการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับภัยพิบัติ ว่ามีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอยู่แล้ว ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำหนดนโยบาย แก้ปัญหา หามาตรการใหม่ๆ ดำเนินการตามแผนงานโครงการ และสนับสนุนงบประมาณ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานดูแลเรื่องนี้ โดยได้จัดทำกรอบการทำงานและจัดทำแผนแม่บทไว้แล้ว ใน 23 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ ซึ่งการทำงานตลอด 5 ปีของรัฐบาลรัฐบาลสามารถลดวงเงินที่ใช้ในการชดเชยความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากปัญหาภัยพิบัติ จาก 30,000 ล้านบาท เหลือเพียง 10,000 ล้านบาทในปัจจุบัน

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขณะนี้ปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นเนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน เพียง3วันมีปริมาณฝนตกประมาณมากกว่า 500 มิลลิเมตรโดยจากการลงพื้นที่ ความเสียหายเกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตรเป็นส่วนใหญ่ กระทรวงการคลังมีมาตรการเยียวยาในขั้นต้นแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ลงไปตรวจเยี่ยมดูแลว่าจะสามารถช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมได้บ้าง ทั้งเรื่องต้นทุนการปลุกพืช เมล็ดพันธ์พืชและการเพาะปลูกในฤดูกาลหน้า 

พร้อมย้ำว่าการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบขอให้ตรวจสอบให้ดี ประชาชนก็ต้องรักษาสิทธิ์ของตนเองไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้น ข้อมูลต่างๆจะต้องตรงกันกับรายงานมายังรัฐบาลเพราะขณะนี้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการฟื้นฟูและเยียวยา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการสำรวจ 

อย่างไรก็ตามขณะนี้กำลังพิจารณาหาวิธีการใหม่ๆ เช่น การหาแหล่งแก้มลิง ธรรมชาติหรือแก้มลิงที่ประชาชนมีส่วนร่วม เพราะลำน้ำสาขาทั้งหมดล้นตลิ่ง ที่สามารถรองรับน้ำได้แล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชน ตนไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่หากยังโจมตีกันไปมาไม่เกิดประโยชน์ใดใดทั้งสิ้น พร้อมขอประชาชนอย่าไปหลงเชื่อข่าวเท็จ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า จะมีการพิจารณาเพิ่ม เงินชดเชยเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพิ่มเติมจากระเบียบหลักเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง โดยพิจารณาเพิ่มเติมเป็นรายกลุ่ม ทั้งน้ำท่วมซ้ำซากหรือท่วมใหม่ ต้องหาวิธีการ เพราะการใช้งบประมาณ ต้องถูกตรวจสอบจาก สตง. ไม่ใช่จะเอาแต่คะแนนรักรัฐบาล รักนายกรัฐมนตรี ต้องเห็นใจรัฐบาลให้น้อยหรือให้มากก็ไม่ดี ยืนยันมีแนวแก้ปัญหาน้ำท่วม

พร้อมบอกให้ถามนักวิชาการ ที่ระบุจะมีน้ำท่วมใหญ่ในอีก 2 ปี ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าฝนตกมา 500 มิลลิเมตร แต่ขณะที่ปริมาณฝนทั้งปี แค่ 1,000 มิมลิเมตร ดังนั้นน้ำจะต้องท่วม เป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องเข้าใจ เพราะ เป็นภัยธรรมชาติซึ่งวันนี้ทั่วโลกล้วนประสบภัย ทั้ง อเมริกา ญี่ปุ่น เวียดนามและลาว ไม่ใช่เฉพาะไทยที่ประสบปัญหา 

ซึ่งสื่อจะต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจและปรับตัว เพราะบังคับธรรมชาติไม่ได้ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่และสู้ทำการเกษตรอย่างไร ทั้งหมดพูดไปหมดแล้ว แต่คนบางคน บางกลุ่ม กลับไปบิดเบือน ซึ่งหากสอนกันแบบนี้ ประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าไปได้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คนที่พูด เคยรับผิดชอบบ้างหรือไม่ วันนี้นายกรัฐมนตรีไปได้ทุกที่ ประชาชนไม่รังเกียจ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ใด ใครที่ชอบยุงยงปลุกปั่นถือว่าใช้ไม่ได้ เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินตามกฏหมายในอนาคต ถ้าทุกคนไม่เครพกฏหมาย ก็ตีกันไปหมด

สั่งคมนาคมยื่นอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุดปมค่าโง่ทางด่วน

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า กรณีจ่ายเงินชดเชยโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร หรือ โครงการโฮปเวลล์วงเงิน 12,000 ล้านบาท ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมยื่นอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุด ที่จะครบกำหนดในวันที่ 20 ก.ย.นี้ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญขอให้รอผลการดำเนินการเรื่องนี้ไปก่อน ส่วนการเจรจาพูดคุยก็ให้ทำคู่ขนานกันไป

อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดมานานแล้วแต่รัฐบาลก็ต้องแก้ไข ซึ่งศาลตัดสินออกมาอย่างไรก็ต้องดูว่าจะมีการแก้ไขปัญหาได้อย่างไรบ้าง เพราะหลายอย่างต้องใช้กฎหมายและการเจรจาพูดคุยควบคู่กันไปเพื่อหามาตรการที่เหมาะสม