วันนี้ (27 มีนาคม 2568) ณ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่คณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) เสนอการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ การปรับปรุงกระบวนการต่ออายุ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ได้รับความสะดวกในการประกอบกิจการได้อย่างต่อเนื่อง และการจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) โดยเป็นการเพิ่มประเภทงานที่หน่วยงานภาครัฐเคยมีการปรับปรุงกฎหมายไปแล้ว ทั้งในเรื่องของการยกเว้นการตรวจสอบคนต่างด้าวชาวจีน และการยกเว้นการตรวจสอบคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการปรับปรุงกระบวนการกฎหมายและระยะเวลาพิจารณาการอนุญาตด้านอาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ จากเดิมที่ใช้เวลาทำการ 178 วัน เหลือเพียง 86 วัน และนอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังให้หน่วยงานทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทบทวนกฎกระทรวงที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจที่มีกฎมาอย่างยาวนาน ให้เกิดการเร่งทำใหม่แก้ไขและปรับปรุง โดยให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอีกระยะเวลาภายใน 1 เดือน ต่อจากนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ร่างพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนและความน่าเชื่อถือในตลาดทุน ตลอดจนมีมาตรการที่สามารถยับยั้ง ปราบปรามการกระทำผิดในตลาดทุนเพื่อรักษาความมั่นคงในเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 วงเงินงบประมาณ 3,780,600.0000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณปี พ.ศ. 2568 เป็นจำนวน 27,900.0000 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 แม้งบประมาณจะเพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2568 แต่มีการปรับลดค่าใช้จ่ายประจำที่ไม่จำเป็นออก โดยเพิ่มอัตรากำลังเป็นงบลงทุนมากขึ้นตลอดจนงบประมาณด้านการพัฒนามนุษย์ ยกระดับคุณภาพการศึกษา รวมทั้งจัดสวัสดิการสังคมการพัฒนาระบบสาธารณสุขให้สามารถเข้าถึงได้