การที่ประเทศไทยยืนยันว่าไม่ได้แก้ปัญหาค้ามนุษย์เพื่อให้ต่างชาติยอมรับ อาจจะเป็นเพราะทราบดีว่าแม้สหรัฐฯจะปรับสถานะไทยให้ดีขึ้น แต่องค์กรอื่นๆที่เกียวข้องก็ยังไม่ได้ยอมรับว่าไทยแก้ปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การได้รับการปรับสถานะจากเทียร์ 3 หรือติดแบล็กลิสต์ประเทศที่มีปัญหาการค้ามนุษย์รุนแรง ถือเป็นหนึ่งในข่าวดีไม่กี่ข่าวที่ไทยได้รับจากเวทีโลกในรอบ 2 ปีนับจากการรัฐประหาร แม้ว่าไทยจะยังมีสถานะเป็นประเทศเฝ้าระวังว่ามีการค้ามนุษย์แพร่หลายก้ตาม
แต่ข่าวดีนี้ก็ต้องถูกบดบังด้วยปฏิกิริยารุนแรงจากองค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ พิทักษ์สิทธิแรงงานและสิทธิมนุษยชน ซึ่งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไทยไม่เหมาะสมที่จะได้รับการปรับสถานะจากสหรัฐ
กรีนพีซ ในฐานะองค์กรสิ่งแวดล้อมที่ทำงานปกป้องมหาสมุทรและความเป็นธรรมต่อแรงงาน ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อท่าทีของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯอย่างรุนแรง โดยย้ำว่านี่เป็นการตัดสินใจพลาดและผิดเวลา เพราะแม้รัฐบาลไทยจะมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ แต่การดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายยังคงล่าช้าและไม่สอดคล้องกัน
กรีนพีซย้ำว่าการตัดสินใจของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯที่ผิดเวลานี้จะยิ่งทำให้ขจัดการค้ามนุษย์มีความท้าทายและยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เพราะคำมั่นของประเทศไทยในการขจัดการค้ามนุษย์ที่มีอยู่อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมประมงทะเลและอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล เป็นผลมาจากแรงกดดันจากนานาชาติ การเลื่อนชั้นของประเทศไทยจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 เฝ้าระวังก่อนเวลาอันควรนี้ จึงกลายเป็นการลดแรงกดดันดังกล่าวทั้งที่ยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม
ฮิวแมนไรท์สวอช องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากล ก็แสดงความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยระบุว่ารายงานการค้ามนุษย์หรือทิป รีพอร์ตของสหรัฐฯส่วนที่อัพเกรดสถานะของไทยมีความบกพร่อง เพราะแม้ว่ารัฐบาลจะมีนโยบายแข็งขันขึ้นในการแก้ปัญหานี้ แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรที่เป็นรูปธรรมพอที่จะได้รับการอัพเกรดสถานะ เนื่องจากยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์อย่างได้ผล ไม่สามารถจัดการข้าราชการและตำรวจระดับสูงที่รับสินบนได้ และยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาระบบการลักลอบนำแรงงานอพยพเข้าสู่อุตสาหกรรมประมงได้
นอกจากนี้ ก่อนหน้าการประกาศอัพเกรดสถานะของไทย Environmental Justice Foundation หรือ EJF เอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนซึ่งรายงานปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยมาตั้งแต่ก่อนไทยจะถูกปรับลดลงไปสู่เทียร์ 3 ในปี 2014 ก็ออกแถลงการณ์ยืนยันเช่นกันว่าไทยไม่สมควรได้รับการอัพเกรดสถานะขึ้นสู่เทียร์ 2 เนื่องจากยังไม่มีการออกมาตรการสำคัญอีกหลายประการที่จำเป็นต่อการป้องปรามการค้ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการนำตัวพลเมืองไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์มาลงโทษตามกฎหมาย การปรับปรุงกฎหมายขึ้นทะเบียนแรงงานต่างชาติเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงาน หรือการตั้งศูนย์ช่วยเหลือเหยื่อการค้ามนุษย์ที่หลบหนีหรือถูกช่วยเหลือออกมาได้
เรียกได้ว่าในบรรดาประเทศที่ถูกอัพเกรดสถานนะใน TIP Report ปีนี้ ไทยตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดว่าไม่เหมาะสมที่จะได้รับการเลื่อนสถานะให้ดีขึ้น ซึ่งผู้ที่ต้องตอบคำถามนี้ ไม่ใช่รัฐบาลไทย แต่คือรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าการแสดงท่าทีต่อไทยเช่นนี้ เป็นการสื่อนัยะทางการเมืองหรือไม่ และอย่างไร
