ไม่พบผลการค้นหา
องค์การอนามัยโลก ประกาศให้โรคมาลาเรียเป็น 1 ใน 4 โรค ที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน เหตุแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นทั่วโลก

องค์การอนามัยโลก ประกาศให้โรคมาลาเรียเป็น 1 ใน 4 โรค ที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน เหตุแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นทั่วโลก กรมควบคุมโรคเผยสถานการณ์มาลาเรียในไทยยังน่าห่วง เร่งควบคุมภาวะการดื้อยาแพร่กระจาย โดยเฉพาะแรงงานด่าวด้าวตามเขตชายแดน
         

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวหลังเป็นประธานในพิธีเปิด “โครงการอบรมมาลาเรียนานาชาติหลักสูตรการป้องกันและควบคุมไข้มาลาเรียสำหรับบุคลากรจากประเทศในภูมิภาคแอฟริกา” ว่าขณะนี้องค์การอนามัยโลก( WHO ) ประกาศให้ ไข้มาลาเรียเป็น 1 ใน 4 ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน นอกเหนือจาก เอดส์ ไข้เลือดออก และวัณโรค หลังจากพบอัตราผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา

 

ซึ่งจำนวนผู้ที่ติดเชื้อมาลาเรียนทั่วโลกในขณะมี 300 ล้านคน และเสียชีวิตประมาณ 1 ล้านคน ร้อยละ 90 เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา ส่วนใหญ่เกิดกับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ  ด้านสถานการณ์ผู้ป่วยมาลาเรียในประเทศไทย นับตั้งแต่เดือน มกราคม - ธันวาคม 2553 มีทั้งหมด 25,629 ราย เป็นคนไทย 18,371 ราย และชาวต่างชาติ 27,257 ราย เมื่อเปรียบเทียบผู้ป่วย ปี 2553 กับปีที่ผ่านมา พบจำนวน ผู้ป่วยไทยสูงขึ้นร้อยละ 6.14

 

ในขณะที่ต่างชาติมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 30.26 ปัญหาหลักในการเพิ่มอัตราการเกิดโรคมาเลเรียในไทยเนื่องจากการเคลื่อนย้ายแรงงานด่างด้าวที่ผิดกฎหมาย จังหวัดที่น่าห่วงมากที่สุดคือจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดกัมพูชา,พม่า และมาเลเซีย นอกจากนี้ยังมีการเร่งควบคุมปัญหาการดื้อยาในผู้ป่วยมาลาเรีย เพื่อให้ให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปยังประเทศที่มีจำนวนผู้ป่วยที่ใช้ยารักษาโรคมาลาเรียอยู่มาก เช่นประเทศในทวีปแอฟริกา โดยเน้นนโยบายเชิงรุกโดยการรณรงค์ให้ประชาชนตรวจสุขภาพเพื่อหาเชื้อมาลาเรีย จากศูนย์มาลาเรีย 300 แห่ง และ มาลาเรีย โพสต์ 460 แห่ง ทั่วประเทศ คาดว่า ปี 2563 จะลดและควบคุมการเกิดโรคมาลาเรียได้ 

 

นพ.สุวรรณชัยยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ระหว่างวันที่ 7 กุมภาพันธ์ - 4 มีนาคมนี้ มีการจัดการโครงการอบรมมาลาเรียนานาชาติหลักสูตรการป้องกันและควบคุมไข้มาลาเรีย สำหรับบุคลากร จากประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ( International Course on Malaria Prevention and Control for Africa ) ในประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นโดยองค์การความร่วมหรือระหว่างประเทศญี่ปุ่นหรือไจก้า (JICA) กับรัฐบาลไทยโดยสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร . หรือ TICA ) เพื่อจัดการอบรมเรื่องการป้องกันและควบคุมไข้มาลาเรียให้กับกลุ่มแพทย์ นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่สาธรณสุข ตัวแทนประเทศต่างๆ ได้แก่ บูร์กินา ฟาโซ, แกมเบีย, เคนยา,มาลี,โมซัมบิก,เซเนกัล, ซิมบับเวและไทย ซึ่งทางไจก้าได้เล็งเห็นศักยภาพของไทยในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดไข้มาลาเรีย เพื่อนำไปปรับใช้และลดการเสียชีวิตจากไข้มาลาเรียนในภูมิภาคแอฟิกา

Source : News Center / Bangkokbiznews / nakhonsihealth.org (Image)

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog