ไม่พบผลการค้นหา
9 องค์กรด้านดิจิทัลร่วมลงนามจัดตั้ง 'สมาพันธ์ดิจิทัลไทย' เพื่อเป็นเครือข่ายการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน

9 องค์กรด้านดิจิทัลร่วมลงนามบันทึกเจตนารมณ์การจัดตั้ง สมาพันธ์ดิจิทัลไทย (Thai Digital Confederation) เพื่อเป็นเครือข่ายการประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.2559) โดยมีผู้แทนของสมาคมและชมรมอันประกอบด้วย
 
1. นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ นายกสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) ตัวแทนสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) (DAAT)
2. นายศุภเสฏฐ์ ชูชัยศรี นายกสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย ตัวแทนสมาคมโปรแกรมเมอร์ไทย (TPA) 
3. นายภาวุธ พงษ์วิทยภาณุ นายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ตัวแทนสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (TECA) 
4. นายอนันต์ แก้วร่วมวงษ์ นายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย ตัวแทนสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (TISPA) 
5. นายอภิศิลป์  ตรุงกานนท์ นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ตัวแทสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย (TWA)
6. นางสาวกนกพร ประสิทธิ์ผล นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ตัวแทนสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP)
7. นายไผท ผดุงถิ่น นายกสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ ตัวแทนสมาคมการค้าเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเทคโนโลยีรายใหม่ (TTSA)
8. นายอัครวุฒิ ตำราเรียง อุปนายกสมาคมศึกษาและพัฒนาโอเพ่นซอร์ส ตัวแทนสมาคมศึกษาและพัฒนาโอเพ่นซอร์ส (OSEDA)
9. นายเมธา สกาวรัตน์  ประธานชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวแทนชมรมนักข่าวสายเทคโนโลยีสารสนเทศ (ITPC) 
 
        

การจัดตั้งสมาพันธ์ดิจิทัลไทย มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งดังต่อไปนี้ 
1. จรรโลงไว้ ซึ่งอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยให้สามารถเติบโตและขยายตัวไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
2. สร้างความมั่นใจว่ากฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลเอื้อต่ออุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทย 
3. เสริมสร้างบรรยากาศสังคมอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยให้เอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นโดยเสรีและมีความรับผิดชอบ 

ด้านนายอภิศิลป์ ตรุงกานนท์  นายกสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย กล่าวถึงที่มาการจัดตั้งสมาพันธ์ดิจิทัลไทยว่า เนื่องจากได้ยินจากหลาย ๆ ท่านในภาคธุรกิจไอที ซอฟต์แวร์ ผู้ให้บริการออนไลน์ พูดถึงปัญหาต่าง ๆ อาทิ เช่น บุคลากรในอุตสาหกรรมดิจิทัลหายาก, ทักษะไม่ตรงกับที่ต้องการ หรือแม้กระทั่งปัญหาที่คนทั่วไปพบเจอเช่น ด้านกฎหมาย, ลิขสิทธิ์, พรบ.คอมพิวเตอร์, ภาษีต่างๆ จึงคิดว่าปัญหาเหล่านี้สมาคมใดสมาคมหนึ่งคงไม่สามารถที่จะติดตามได้โดยเฉพาะ ถ้ามองในแง่ธุรกิจ คือเรากําลังถูกคุกคามจากธุรกิจต่างชาติ ซึ่งถ้าต่างคนต่างอยู่น่าจะไม่ไหว นอกจากเรื่องธุรกิจยังมีเรื่องกฎระเบียบข้อบังคับด้วย ซึ่งเรื่องพวกนี้ทําคนเดียวไม่ได้ จึงคิดว่าน่าจะมีการรวมตัวเป็นสมาพันธ์ เพื่อร่วมมือกันทํางานในบางส่วน ซึ่งน่าจะเป็นผลพลอยได้ เช่น เรื่องการแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน

อย่างไรก็ตามหลังจากดำเนินการจัดตั้งสมาพันธ์ฯ แล้ว ผู้แทนจากสมาคมและชมรมจะส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและดำเนินกิจกรรมเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ข้างต้นอย่างน้อย 2 เดือนต่อ 1 ครั้ง และหากจะมีองค์กรอื่นเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาพันธ์ฯ ในอนาคต จะต้องได้รับความเห็นชอบจากองค์กรที่ร่วมก่อตั้งอย่างเป็นเอกฉันท์ เช่นเดียวกับการยกเลิกสมาพันธ์ก็ให้ดำเนินการเช่นเดียวกัน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog