5 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเอกสารลับปานามา หลังมีข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารลับออกมาเผยแพร่ เรื่องนี้เป็นมาอย่างไร และจะมีผลอย่างไรต่อการเลี่ยงภาษีทั้งในไทยและทั่วโลก
เอกสารลับปานามา เป็นคำสั้นๆที่สื่อทั่วโลกใช้ขนานนามเอกสารลับ 11 ล้านฉบับที่รั่วไหลมาจากสำนักงานกฎหมายมอสแซ็ก ฟอนเซกา ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในปานามา และถูกนำมาเผยแพร่โดย ICIJ เครือข่ายผู้สื่อข่าวสอบสวนนานาชาติ เอกสารชุดนี้จึงถูกเรียกสั้นๆว่า Panama Papers หรือเอกสารลับปานามา ซึ่งถือเป็นการเปิดโปงข้อมูลเกี่ยวกับการเลี่ยงภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในโลก
ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเอกสารชุดนี้มีจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ด้วยข้อมูลที่มหาศาล ทำให้มีการสังเคราะห์เฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญๆของโลกขึ้นมานำเสนอก่อน โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือแวดวงการเมือง เช่นนายกรัฐมนตรีไอซ์แลนด์ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ครอบครัวของประธานาธิบดีจีนและสมาชิกระดับสูงของพรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีรัสเซีย ไปจนถึงบิดาของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และบุตรชายของนายกฯมาเลเซีย ส่วนแวดวงกีฬาและบันเทิง ก็มีชื่อคนดังอย่างเฉินหลง ลีโอเนล เมสซี และอมิตาบ พัคจัน นักแสดงบอลลีวูดชื่อดัง และมิเชล พลาตินี ประธานยูฟ่า
คนไทยที่มีชื่อปรากฏในเอกสารลับปานามามี 21 คน และมีอีก 963 บริษัทที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายของมอสแซก ฟอนเซกา แต่รายชื่อบุคคลและบริษัทเหล่านี้ยังไม่ถูกเปิดเผย จนกว่าจะมีการสังเคราะห์ข้อมูลเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีรายชื่อคนไทยจำนวนมากอยู่ในดาตาเบสของ ICIJ ว่ามีการตั้งบัญชีหรือบริษัทออฟชอร์ ซึ่งอาจเข้าข่ายการฟอกเงินและเลี่ยงภาษีเช่นเดียวกัน
ICIJ ยืนยันว่าผู้ที่มีรายชื่อในดาตาเบสการมีบริษัทและบัญชีออฟชอร์ หรือการเปิดบัญชีและบริษัทในต่างแดน มีทั้งการทำโดยสุจริตและการทำเพื่อเลี่ยงภาษีหรือปกปิดความร่ำรวยของตนเอง เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีรายชื่อในดาตาเบส จึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ที่ทำผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับผู้บริหารของมอสแซก ฟอนเซกา ที่ยืนยันว่าตลอด 40 ปีที่บริษัทก่อตั้งมา ไม่เคยทำธุรกรรมใดๆที่ผิดกฎหมายทั้งสิ้น เนื่องจากการเปิดบัญชีหรือบริษัทออฟชอร์ ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายของประเทศที่เป็น Tax Haven อยู่แล้ว
ผลกระทบจากเอกสารลับปานามาคาดว่าจะเกิดมากที่สุดกับประเทศที่มีกฎหมายการเงินเข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตย อย่างออสเตรเลียและเยอรมนี ที่เดินหน้าตรวจสอบการเลี่ยงภาษีทันทีที่มีการเปิดเผยข้อมูลจาก ICIJ รวมถึงไอซ์แลนด์ ที่นายกรัฐมนตรีเผชิญกับการประท้วงครั้งใหญ่ กดดันให้เขาลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ ขณะที่ในประเทศเผด็จการอย่างจีนและรัสเซีย การเปิดโปงเครือข่ายฟอกเงินที่โยงใยไปถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน และนายสีจิ้นผิง ไม่มีความหมายใดๆ เนื่องจากผู้มีอำนาจในประเทศเหล่านี้ไม่เปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบได้อยู่แล้ว